เจาะลึกโอกาส "เวียดนาม" กับเป้าหมายประเทศเศรษฐกิจพัฒนาเเล้วปี 2050

ความน่าสนใจในระหว่างการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-19 มกราคม 2567 ณ เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านมา ก็คือการที่ “เวียดนาม ประกาศชัดกลางเวที WEF 2024 ตั้งเป้าเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2050” พร้อมยืนยันแนวนโยบายของเวียดนามในยุทธศาสตร์การพัฒนาโลก

ในเวทีนอกรอบซึ่งมี ศาสตราจารย์ เคลาส์ ชวับ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ WEF และผู้นำ 100 คน ตัวแทนของประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ บรรษัท และธุรกิจต่างๆ ที่เป็นสมาชิกของ WEF ดำเนินรายการโดย โธมัส ฟรีดแมน คอลัมนิสต์ของนิวยอร์กไทม์ส

ศาสตราจารย์ เคลาส์ ชวับ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ WEF กล่าวว่า “เวียดนามไม่เพียงแต่เป็นดาวเด่นในเอเชียตะวันออกเท่านั้น แต่ยังอยู่ในกระบวนการเปลี่ยนแปลง เป็นประเทศที่มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจระดับโลกอีกด้วย เขาชื่นชมบทบาทที่เพิ่มขึ้นของเวียดนามเป็นอย่างมาก โดยกล่าวว่าเวียดนามได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้บุกเบิกการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวและอัจฉริยะอย่างแท้จริง”

เมื่อมีการเริ่มสอบถามประสบการณ์ของเวียดนาม แนวทางการพัฒนา และการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาระดับโลก

นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ย้ำถึงแนวทางการพัฒนาที่สำคัญของเวียดนาม ระบุว่า “เวียดนามมีวัตถุประสงค์คือ การสร้างประเทศชาติที่เข้มแข็ง ให้ความสำคัญกับความมั่งคั่ง การพัฒนาโดยรวมของประชาชน ด้วยวิสัยทัศน์สู่ปี 2030 เวียดนามจะกลายเป็น “ประเทศกำลังพัฒนา” ที่ทันสมัย มีรายได้ปานกลางระดับสูง  ในขณะที่เป้าหมายในปี 2050 เวียดนามจะกลายเป็น “ประเทศพัฒนาแล้ว” ที่มีรายได้สูง”

ความเป็นไปได้ “เวียดนาม” จะเป็นประเทศพัฒนาเเล้วภายในปี 2050 

คุณชยนนท์ รักกาญจนันท์ CEO & Co founder FINNOMENA Funds ระบุว่า การจะเป็นประเทศพัฒนาเเล้วมีตัวชี้วัดบางอย่างที่นักเศรษฐศาสตร์มักใช้ คือ รายได้ต่อหัวของประชากร หรือ GDP Per Capita อย่างน้อยประมาณ 12,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 440,000 ต่อปี หรือ 37,000 บาทต่อเดือน (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 19 ม.ค.67 ) ซึ่งข้อมูลของเวียดนาม เมื่อปี 2022 อยู่ที่ 3,740 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

เเต่เพื่อให้เห็นภาพหากนำมาเปรียบเทียบกับประเทศไทย โดยพิจารณา ไทยมีรายได้ต่อหัว อยู่ที่ 7,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีซึ่งมากกว่าเท่าตัว มองเเบบนี้น่าจะเป็นประเทศพัฒนาเเล้วหรือรายได้สูงเร็วกว่าเวียดนาม เเต่มีข้อมูลที่น่าสนใจมากกว่านั้น คือ GDP 10 ปีย้อนหลัง เเละ GDP Per Capita ของเวียดนาม เฉลี่ยโตที่ 6.3%-6.5% ต่อปี ในขณะที่ประเทศไทย 10 ปี GDP Per Capita โตอยู่ที่ 2.5 %

“ตัวเลขชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยอยู่ที่สูงเเต่เริ่มเดินช้า ขณะที่เวียดนามมากจากจุดที่อยู่ด้านล่างเดินเร็วขึ้น หากคำนวน ถ้า GDP Per Capita 3,700 ดอลลาร์สหรัฐ ตั้งเป้า 2050 จะได้ 12,700 ดอลลาร์สหรัฐ อีก 27 ปี หมายความว่าเวียดนามจะต้องทำให้ GDP โตที่ 4.62% ซึ่งไม่ได้เหนือบ่ากว่าเเรงสำหรับเวียดนาม ถือเป็นการตั้งเป้าที่มีความเป็นไปได้ เเละจะเเชงไทยไม่เกิน 7ปีข้างหน้าในเเง่ GDP Per Capita”

ด้านปัจจัยที่จะส่งเสริมให้เวียดนามบรรลุเป้าหมาย คุณชยนนท์ ฉายภาพให้เห็นโดยระบุว่า เวียดนามมีพื้นที่ประมาณ 330,000 ตารางกิโลเมตร ขณะที่ประเทศไทยมีพื้นที่ราว 510,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีพื้นที่น้อยกว่าประเทศไทยเกิน 60% เเต่เวียดนามมีทรัพยากรธรรมชาติที่น่าสนใจ เวียดนามตั้งอยู่คาบสมุทรความยาวติดทะเล 3,400 กิโลเมตร เวียดนามจึงได้เปรียบด้านเกษตรกรรมเกี่ยวข้องกับอาหารทะเลเเละรายได้น่าจะเติบโตต่อไปอย่างเเข็งเเกร่ง ที่สำคัญการขาดเเคนลอาหารไม่น่าจะเกิดกับเวียดนาม ประเด็นต่อมาคือประชากร มีจำนวน 98 ล้านคน ภายใน 3-4 ปี ข้างหน้า คาดว่าจะเกิน 100 ล้านคน ส่วนประเทศไทยอยู่ที่ 60-70ล้านคน ที่น่าสนใจคือประชากรของเวียดนามใน 98 ล้านคน จำนวนคน เรียนจบปริญญาตรีเกือบครึ่ง

นอกจากนี้เวียดนามยังมีเป้าหมายภายในปี 2025 จะเพิ่มประชากรที่มีทักษะเทคโนโลยีให้ได้ 10 ล้านคน เเละจะเพิ่มประชากรผู้หญิงที่จบปริญญาตรี เกิน 50% ดังนั้น เป้าหมายของเวียดนามที่ประกาศบนเวที WEF มีเป้าอื่นรองรับ เช่น เป้าหมายด้านการศึกษา เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม

ในประเด็นการค้าเวียดนาม เวียดนามได้เข้าเป็นสมาชิก WTO ตั้งเเต่ปี 2007 เวียดนามได้ลงนามและจะลงนามในความตกลงทางการค้าเสรี (Free Trade Agreements: FTA) ความตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป – เวียดนาม (EU – Vietnam Free Trade Agreement: EVFTA) ตั้งเเต่ 2019 หลังโควิดเข้าร่วม หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ปี 2022 และต้นปี 2023 เข้าร่วม RCEP หรือ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership)

“หาไม่ได้ง่ายๆ โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ในข้อตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดของโลก คือ  CPTPP เเละ RCEP หมายความว่าบริษัทใดก็แล้วเเต่ที่ไปตั้งโรงงานที่เวียดนามสามารถขายสินค้าให้จีนเเละสหรัฐฯ ได้ จึงเป็นที่มาว่าทำไมเงินลงทุนต่างชาติไหลบ่าเข้าไปฝั่งเวียดนามทั้งหมดเพราะสามารถจะขายกับใครก็ได้ โดยไม่ต้องโดนกำเเพงภาษี ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์ที่เรียกว่าการส่งออกของเวียดนามโตในระดับเกิน 10-20% อย่างน้อยๆ คือในช่วงที่จีนกับสหรัฐฯยังมีความขัดเเย้งกันอยู่”

เพื่อจะรองรับเม็ดเงินจากต่างประเทศที่เข้ามาลงทุน เวียดนามมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ 300 เเห่ง ตั้งเเต่เวียดนามเหนือถึงเวียดนามใต้ ให้สิทธิภาษีนักลงทุนต่างชาติ เช่น ยกเว้นภาษีอากร ให้สิทธิครองที่ดิน การจ้างแรงงานต่างชาติ เพื่อได้ความรู้หรือทักษะนำมาพัฒนาประชากรในประเทศ

“จะเห็นได้ว่าเวียดนามพยายามวางเเผนโครงสร้างครบทุกมิติ เเรงงาน การดึงดูดเงินลงทุน อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศที่สมดุล ไม่ได้พึ่งพาการบริโภคภายในประเทศ ไม่พึ่งพาส่งออก แต่ไปที่มิติอุตสาหกรรม โดยเชื่อว่าเทคโนโลยีคือข้อได้เปรียบ ทำให้เรื่องนี้โดดเด่นถึงขนาดที่ต้องการพัฒนาทักษะบุคคลากรด้านเทคโนโลยี จำนวน 10 ล้านคน เป็นวิสัยทัศน์ที่ฟังเเล้วน่าตื่นเต้นเเละไม่น่าแปลกใจว่าทำไมนักลงทุน VI ในประเทศไทยบางส่วนถึงเริ่มขยับเเละโยกเงินไปที่เวียดนาม”

ไทย ควรเรียนรู้อะไรจากเวียดนาม

คุณชยนนท์ ระบุว่า ทรัพยากรที่สำคัญ คือ ทรัพยากรมนุษย์ ต้องรีสกิลบุคคลากรภายในประเทศ แต่เชื่อว่าสุดท้ายจำเป็นต้องนำเเรงงานจากต่างชาติเข้ามาก่อน เพื่อเรียนรู้ทักษะ นอกจากนี้ไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับระบบการศึกษาเพื่อพัฒนาให้ทันกับโลก

“ถ้าเอาเเบบระยะสั้นสิ่งที่นายกฯ เดินสายไปดึงบริษัทเทคฯ มาตั้งฐานในไทยเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะทำให้คนในประเทศที่ต้องการเข้าไปทำงานก็จะปรับทักษะของตัวเอง เเต่การเชิญชวนนักลงทุนต่างขาติเข้ามาอาจติดเรื่องทักษะแรงงงานเเละค่าเเรงของไทยเเพงกว่าเวียดนาม ถ้าค่าแรงถูกกว่าแต่ทักษะเท่ากัน นักลงทุนก็น่าจะไปลงที่เวียดนาม ดังนั้นต้องมีข้อเสนอหรือกฎเกณฑ์บางอย่างที่เป็นประโยชน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำการบ้าน”

เวียดนามตั้งเป้าหมายจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050)

ตามรายงานจากศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในเวียดนาม ระบุว่า เวียดนามตั้งเป้าหมายที่จะเป็นประเทศอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่มีรายได้ปานกลางระดับสูง ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030) และเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้สูงภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050)

ปัจจุบันการเติบโตของ GDP เฉลี่ยต่อปีของเวียดนามอยู่ที่ 7% ต่อปี ซึ่งภาคบริการมีสัดส่วนใน GDP มากกว่า 50% ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้างมีสัดส่วนมากกว่า 40 % และภาคเกษตรกรรม ป่าไม้ และการประมงมีสัดส่วนต่ำกว่า 10%

มติแผนแม่บทแห่งชาติระหว่างปี 2564-2573 (ค.ศ. 2021-2030) วิสัยทัศน์ถึงปี 2593 (ค.ศ. 2050)

ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030) GDP ต่อหัว (GDP per capita) ของเวียดนามจะสูงถึง 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับ GDP ต่อหัวในปี 2565 ประมาณ 4,100 ดอลลาร์สหรัฐ

รัฐบาลยังตั้งเป้าหมายเพิ่ม GDP ต่อหัวเป็น 27,000-32,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050) ในขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยของการผลิตภาพแรงงานสังคมจะมากกว่า 6.5 %ต่อปี และอัตราการขยายตัวของเมืองทั่วประเทศจะเกิน 50 %

หากบรรลุเป้าหมายข้างต้นได้ ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050) เวียดนามจะกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้สูง โดยมีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรม และการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050) เวียดนามยังตั้งเป้าหมายว่าจะก้าวเป็นหนึ่งในประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำในเอเชีย เป็นศูนย์กลางทางการเงินและเศรษฐกิจทางทะเลระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ และบรรลุเป้าหมาย Net Zero อีกทั้งจะส่งเสริมให้อย่างน้อย 5 จังหวัดในเวียดนาม ก้าวเป็นเมืองระดับนานาชาติ

คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนาม

ในปี 2024 ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ต) คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามจะขยายตัวแข็งแกร่งถึง 6.7% ในปีนี้ พร้อมกับคาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัว 6.2% และ 6.9% ในช่วงครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังของปีนี้ ตามลำดับ

สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เปิดเผยการคาดการณ์ดังกล่าวในรายงานการวิจัยระดับโลกเกี่ยวกับเวียดนามซึ่งมีการตีพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ โดยรายงานดังกล่าวมีชื่อว่า “Vietnam – stronger but not easier”

โดยให้เหตุผลว่า ระยะกลางนี้ เศรษฐกิจเวียดนามยังคงมีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางที่ดี และการที่เวียดนามจะรักษาการเติบโตที่รวดเร็วและขีดความสามารถในการแข่งขันได้นั้น เวียดนามจำเป็นต้องยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและเตรียมความพร้อมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน”

ยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเวียดนามยังคงแข็งแกร่ง แม้จะปรับตัวลดเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา ส่วนยอดการส่งออกและนำเข้าเริ่มฟื้นตัว แม้ว่าการค้าที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์จะยังคงไม่แน่นอนก็ตาม แต่การฟื้นตัวของยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ยังคงซบเซา ซึ่งการผลักดัน FDI ให้แข็งแกร่งขึ้นนั้น ตัวเลข GDP ของเวียดนามจะต้องขยายตัวเร็วขึ้น

ส่วนอัตราเงินเฟ้อของเวียดนามจะพุ่งขึ้นแตะ 5.5% ในปี 2024 จากระดับ 3.3% ในปี 2023 พร้อมกับคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางเวียดนามอาจจะยุตินโยบายผ่อนคลายการเงิน เนื่องจากเศรษฐกิจเวียดนามเริ่มฟื้นตัว

ขณะที่ สถาบันการจัดการทางเศรษฐกิจส่วนกลางของเวียดนาม คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศในปี 2024 โดยเเบ่งเป็น 2 ฉากทัศน์

  • การจะเติบโต 6.13 % หากการส่งออกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.02 มูลค่าการค้าเกินดุลจะสูงแตะ 5,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 198 ล้านบาท) และภาวะเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.94
  • การเติบโต 6.48 % หากการส่งออกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.19 มูลค่าการค้าเกินดุลจะสูงแตะ 6,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 219,000 ล้านบาท) และภาวะเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.72

โดยให้เหตุผลว่าปี 2024 จะยังคงเป็นปีที่ยากลำบากของเศรษฐกิจเวียดนามและเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตามการเสริมสร้างการปฏิรูปเชิงสถาบันจะช่วยเร่งการเติบโตให้กับเวียดนาม

โครงการการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เวียดนาม 

สำนักงานการลงทุน กระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) รายงานว่าในปี 2023 เวียดนามดึงดูดโครงการการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จำนวน 39,100 โครงการ คิดเป็นเงินทุนจดทะเบียนรวมมากกว่า 468.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นครโฮจิมินห์เป็นเมืองที่มีการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด มีโครงการ 12,398 โครงการ ทุนจดทะเบียน 57.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  คิดเป็น 31.67% ของจำนวนโครงการทั้งหมด รองลงมาฮานอย

ข้อมูลการลงทุนจากต่างประเทศในปี 2023

เกาหลีใต้เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดด้วย 9,795 โครงการ โดยมีมูลค่าเงินทุนจดทะเบียน 84,016 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18.3 ของมูลค่าเงินทุนทั้งหมด รองมาเป็นสิงคโปร์ ที่มี 3,412 โครงการ ด้วยมูลค่าเงินทุนจดทะเบียน 73,409 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 9 และถัดไปเป็นญี่ปุ่น ที่มี 5,227 โครงการ มูลค่า 71,414 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 15.5 เป็นต้น

ตามข้อมูลของ MPI ในอดีต เงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้าสู่เวียดนามยังคงมุ่งเน้นไปที่จังหวัดและเมืองที่มีข้อได้เปรียบหลายประการ เช่น โครงสร้างพื้นฐานที่ดีและทรัพยากรมนุษย์ที่มั่นคง การปฏิรูปการบริหาร และพลวัตในการส่งเสริมการลงทุน

ตำแหน่งและบทบาทของเวียดนามต่อกระแส FDI ทั่วโลก

ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เวียดนามไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่น่าสนใจ โดยทุน FDI ที่จดทะเบียนในปี 2566 มีมูลค่าประมาณ 36.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 32% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ยังลงทุนในเชิงรุกในต่างประเทศ แม้แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้วและในอุตสาหกรรมใหม่

เวียดนามยังได้ส่งเสริมนวัตกรรม เศรษฐกิจดิจิทัล การเติบโตสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียน และภาคเศรษฐกิจใหม่ เช่น การผลิตชิป เซมิคอนดักเตอร์ การเกษตรที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง และเหมืองแร่ การฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์คุณภาพสูงเพื่อคว้าโอกาสจากประเทศสำคัญ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น การแข่งขันเชิงกลยุทธ์ การย้ายเงินทุน FDI ทั่วโลก ข้อตกลงการค้าเสรี และการร่วมมือกับประเทศอื่นๆ

เวียดนามในการสร้างสมดุลความสัมพันธ์กับประเทศสำคัญ

นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เน้นย้ำในเวที WEF 2024 ว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองจากสงครามและการคว่ำบาตร อย่างไรก็ตาม เวียดนามได้ตัดสินใจที่จะทำลายอดีต เอาชนะความแตกต่าง ส่งเสริมความคล้ายคลึงกัน และมองไปสู่อนาคต โดยการเปลี่ยนศัตรูให้เป็นพันธมิตร

เขากล่าวว่า การเยือนเวียดนามของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจทางการเมืองที่แข็งแกร่งระหว่างเวียดนามและมหาอำนาจสำคัญของโลกทั้งสอง ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงแนวทางนโยบายต่างประเทศของประเทศอย่างแท้จริง

รายงานระบุว่า การเยือนเวียดนามของ ไบเดน ได้ขนทัพผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น กูเกิล อินเทล แอมคอร์ มาร์เวลล์ โกลบอลฟาวน์ดรีส์ และ โบอิ้ง เข้าร่วมประชุมสุดยอดนวัตกรรมและการลงทุนระหว่าง เวียดนาม-อเมริกา ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงฮานอยเมื่อปีที่ผ่านมา

News Related
  • สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน

    Courtesy of ByteDance https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334883.mp3?cb=1701136108.mp3 สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า ByteDance บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมอย่าง TikTok สั่งปลดพนักงานในแผนกเกมออกราว 1,000 คน พร้อมยกเลิกการพัฒนาเกมที่ยังไม่ได้เปิดตัวทั้งหมด และเตรียมขายเกมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้บริษัทอื่นด้วย แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ByteDance มองว่าธุรกิจเกมไม่ได้สำคัญมากนักและมีโอกาสที่จำกัดในการสร้างรายได้ บริษัทจึงเลือกที่จะทุ่มเทกับธุรกิจหลักมากกว่า เช่น TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่พ่วงมากับอีคอมเมิร์ซ ซึ่งกำลังประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งนี้ ByteDance เคยมีความทะเยอทะยานอย่างมากกับธุรกิจเกม และต้องการต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent Holdings บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากรายได้ โดย ByteDance ได้ลงทุนอย่างจริงจังในธุรกิจเกมมาตั้งแต่ปี 2016 และในระหว่างปี 2019 ถึงปี 2022 พวกเขาทุ่มเงินมากถึง 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 151,200 ล้านบาท เพื่อลงทุนในบริษัทเกมมากกว่า 19 แห่ง ความทะเยอทะยานของ ByteDance ค่อย ๆ ลดลงจากผลงานที่น่าผิดหวัง ...
    See Details: สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน
  • สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก

    สุภโชค สารชาติ เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขัน เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 ได้ประกาศโปรแกรมการแข่งขันในปีนี้ออกมาแล้ว สำหรับปีนี้จะใช้ชื่อเต็มว่า ไทยประกันชีวิต เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 พาวเวอร์ดบาย เมจิ ยาสึดะ หลังได้ ไทยประกันชีวิต เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักอีกทั้งยังได้เซ็นข้อตกลงกับบริษัท นิคอน คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ “บรอนซ์ พาร์ทเนอร์” ด้วย เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 จะมี 4 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วย 2 ทีมไทยลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่วนทีมจากเจลีก ประกอบด้วย ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ เซเรโซ ...
    See Details: สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก
  • ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4

    ภาพประกอบข่าว ครม. เคาะกฎกระทรวงขยายเวลาให้สถานบริการที่ตั้งในโรงแรมถูกกฎหมาย สถานบริการที่ตั้งใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย ได้ถึง 4.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 พ.ย. 2566 ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่….) พ.ศ… ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฯ จะกำหนดให้สถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังต่อไปนี้เปิดให้บริการได้ถึงเวลา 4.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้ ได้แก่ สถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม, สถานบริการที่ตั้งอยู่ในท้องที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาพประกอบข่าว สำหรับท้องที่อื่นที่ประสงค์จะให้สถานบริการเปิดทำการได้ถึง 4.00 ...
    See Details: ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4
  • อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา

    Elon_Musk_Plan_City_Cover https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334745.mp3?cb=1701136565.mp3 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน อิสราเอลได้ต้อนรับการมาเยือนของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ในระหว่างที่หยุดทำสงครามกับฮามาสเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงในหลักการสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ในฉนวนกาซา หลังจากมัสก์รับปากว่าจะให้การช่วยเหลือการเชื่อมต่อเน็ตในฉนวนกาซาผ่าน “องค์กรช่วยเหลือที่สากลยอมรับ” ในช่วงที่อิสราเอลเริ่มถล่มฉนวนกาซาอย่างหนักจนการสื่อสารถูกตัดขาดลง ช่วงบ่ายของวันจันทร์ ไอแซค เฮอร์ซอก (Isaac Herzog) ประธานาธิบดีของอิสราเอลมีกำหนดจะพูดคุยกับมัสก์ และพวกเขาจะเข้าร่วมพูดคุยกับญาติของตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาจับตัวไว้ เพื่อหาทางต่อสู้กับการต่อต้านชาวยิวที่เพิ่มขึ้นบนโลกออนไลน์ ในวันเดียวกัน เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีกำหนดหารือกับมัสก์เกี่ยวกับความปลอดภัยของเอไอ และจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์ หลังจากทั้งสองพึ่งพบกันล่าสุดในแคลิฟอร์เนียเมื่อ 18 กันยายน เกี่ยวกับการต่อต้านชาวยิวบนแพลตฟอร์ม X และหาจุดสมดุลของเสรีภาพในการแสดงออก ปลายเดือนตุลาคม ช่วงที่มัสก์เผยว่าจะมอบเน็ตสตาร์ลิงก์ให้ใช้งานในฉนวนกาซา ชโลโม คาร์ฮี (Shlomo Karhi) กสทช. ของอิสราเอลได้แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ากลุ่มฮามาสจะนำเน็ตไปใช้ในการก่อการร้าย แต่การพูดคุยล่าสุดเน็ตสตาร์ลิงก์จะถูกใช้ในอิสราเอลเฉพาะเมื่อได้รับอนุมัติจากกระทรวงคมนาคมของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงในฉนวนกาซาด้วย ...
    See Details: อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา
  • 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ

    ‘ไบท์แดนซ์’ จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก ‘เทนเซ็นต์’ ไม่สำเร็จ สำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างอิงแหล่งข่าวเผยว่า ไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ติ๊กต็อกวางแผนปลดพนักงานฝ่ายเกมมิงและยุบธุรกิจพัฒนาเกมที่เป็นหน้าเป็นหน้าของบริษัทอย่าง Nuverse ถือเป็นการถอนตัวออกจากอุตสาหกรรมเกมครั้งใหญ่ ยกชัยชนะให้กับคู่แข่งอย่างเทนเซ็นต์ทันที แหล่งข่าวระบุว่า ไบท์แดนซ์ เตรียมปลดพนักงานหลายร้อยคน รวมทั้งยุบหลายโครงการที่กำลังพัฒนาและฉุดศักยภาพยอดขายของธุรกิจที่มีอยู่ ตามที่รอยเตอร์เคยรายงานหน้านี้ บริษัทยังพิจารณาขายเซี่ยงไฮ้ มูนตัน เทคโนโลยี สตูดิโอพัฒนาวิดีโอเกมชั้นนำที่ซื้อมาด้วยมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ (1.4 แสนบาท) เมื่อปี 2564 ด้วย การสร้างเกม ถือเป็นธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ปีก่อน ไบท์แดนซ์เริ่มปิดสตูดิโอของตนเองและปลอดพนักงานฝ่ายพัฒนาหลายคน หลังเปลี่ยนไปโฟกัสธุรกิจหลักอย่างติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ๆ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเดือนนี้ก็ปลดพนักงานเกือบ 1 ใน 4 ของฝ่ายพิโค (Pico) ธุรกิจอุปกรณ์โลกเสมือน ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ภาคธุรกิจเกมในโทรศัพท์มือถือของจีน ประสบปัญหาฟื้นธุรกิจให้ถึงจุดสูงสุดเหมือนช่วงโควิด-19 ในขณะที่เศรษฐกิจโลกชอละตัว ไบท์แดนซ์จึงค่อย ๆ ลดความทะเยอทะยานในอุตสาหกรรมเกม เมื่อไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเทนเซ็นต์ได้ ในทางกลับกันผู้นำอุตสาหกรรมเกมอย่างเทนเซ็นต์ ยังคงรักษาการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน เพราะได้รับแรงหนุนจากเครดิตผู้นำอุตสาหกรรม ...
    See Details: 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ
  • TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น

    ภาพประกอบข่าว TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้เศรษฐกิจโลกปี 2567 จะโตแบบชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2566 ผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดในรอบหลายทศวรรษ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง แต่ไม่เลวร้ายถึงขั้น “เศรษฐกิจถดถอย”  แนะลงทุนพันธบัตรเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน 8-15% ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลขาดทุนของพอร์ตโดยรวม นายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) (Mr.Thammarat Kittisiripat, Head of Economic Unit, TISCO Economic Strategy Unit) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2567 จะชะลอตัวลง อันเป็นผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่จะส่งผลกดดันต่อกิจกรรมเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ทั้งกิจกรรมด้านบริการและภาคการผลิต นอกจากนี้ ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางต่างๆ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ ทำให้ TISCO ESU ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 2567 จะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารกลางจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวแต่ยังให้น้ำหนักไม่มาก ที่จะเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” โดยหากอ้างอิงจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มที่ “พัฒนาแล้ว” จะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ...
    See Details: TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น
  • “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน

    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  ผู้แทนการค้าไทย หารือผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย และตัวแทนบริษัทส่งออกผลไม้ไทย เพื่อร่วมมือผลักดันการส่งออกโคและผลไม้ไทยไปจีน ผู้แทนการค้ากล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การส่งออกเดือน ต.ค.2566 มีมูลค่า 23,578.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% เป็นบวกต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 13 เดือน นับจากเดือนก.ย.2565 ซึ่งการส่งออกที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 9.3% โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 12.3% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5.9% สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง อาหารสุนัขและแมว ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง สิ่งปรุงรสอาหาร ผักกระป๋องและผักแปรรูป ผู้แทนการค้ากล่าวว่า สินค้าเกษตรจึงเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของไทย จากการหารือกับสมาคมผู้ส่งออกฯ ที่ผ่านมาประเทศไทยติดปัญหาการส่งออกโคมีชีวิตไปยังประเทศจีน ซึ่งต้องให้ผ่านการรับรองจาก ...
    See Details: “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน
  • มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน
  • น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)
  • เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล
  • กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา
  • SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร
  • สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

OTHER NEWS

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด!

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด! รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ เดือดสุด !! เพราะเป็นรอบที่น้องๆ ทีมสีส้ม “ไข่มุก-ชาโอม-จอย” และทีมสีม่วง “ฟิว-ทศกัณฐ์-ปอนด์” ต้องมานั่งโต๊ะเป็นผู้ประกาศข่าวจริงๆ รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ ใน THE REAL NEXT GEN อมรินทร์เน็กซ์เจน Presented By est cola รายการเรียลลิตี้ ... Read more »

นายกฯ เผย ครม.เคาะขึ้นเงินเดือน ขรก.แล้ว รอฟังโฆษกแถลงได้เลย

ภาพประกอบข่าว นายกฯ เผย ครม.พิจารณาวาระขึ้นเงินเดือนแล้ว ให้โฆษก รบ.แถลง พร้อมเรียก รมต.เพื่อไทยถกต่อ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันนี้ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาวาระการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งมอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกฯเป็นผู้แถลง ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังนายกฯเป็นประธานการประชุม ครม.ชุดใหญ่แล้ว นายกฯได้เชิญรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ... Read more »

ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’!

ภาพประกอบข่าว ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’! จากรกรณีที่ เด่นนาโพธิ์ ส.ธัญญาลักษณ์ นักมวยไทย ขึ้นชกกับ ก้องนภา ศรีมงคล เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่เวทีมวยวัดบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยการชกครั้งนี้ เด่นนาโพธิ์ แพ้น็อกไปอย่างกังขาในยกที่ 3 ทั้งที่ เด่นนาโพธิ์ เป็นฝ่ายฟันศอก ก้องนภา ... Read more »

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ ก่อนแง้มข่าวดีกลางปีหน้า แม้ว่าก่อนหน้านี้ บริษัท PP Krit Entertainment ของศิลปินนักแสดงชื่อดัง พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ได้ออกหนังสือชี้แจงมาตรการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของศิลปิน หลังมีบุคคลบางกลุ่มพยายามละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่ดูเหมือนว่ายังคงมีหลายคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎดังกล่าว จนเป็นเหตุให้คนใกล้ชิดต้องออกมาพูดเตือนสติเรื่องนี้อีกครั้งผ่านทางโซเชียล ล่าสุดเจอ พีพี ในงาน centralwOrld Light Up Christmas Tree Celebration ที่ ลานสแควร์A หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ... Read more »

สมยศ เผยเซ็นสัญญา"อิชิอิ"คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน

สมยศ เผยเซ็นสัญญา”อิชิอิ”คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน จากกรณี “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ประกาศอย่างเป็นทางการแยกทาง มาโน่ โพลกิ้ง จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน หลังผลงานคัดบอลโลก 2 นัดแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่น อดีตกุนซือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ แทนทันที ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เผยว่าเรื่องการเลือกโค้ช เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน มาดามแป้ง ... Read more »

ปุ้ย TPN อัปเดต มิสยูนิเวิร์ส 2023 หลังรัฐบาลนิการากัว สั่งห้ามเข้าประเทศ

หลังจากจบการประกวด Miss Universe 2023 แต่งานนี้ก็ยังมีเรื่องให้ ปุ้ย ปิยาภรณ์ หรือที่แฟนนางงามรู้จักในชื่อ ปุ้ย TPN ต้องมาชี้แจงหลายประเด็นที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ Miss Universe คนล่าสุดเข้าประเทศไม่ได้ หรือประเด็นที่บริษัท TCG จะฟ้อง JKN ซึ่ง JKN เป็นบริษัทแม่ และ TPN เป็นบริษัทลูก จะโดนร่างแหไปด้วยหรือไม่ งานนี้เจ้าตัวก็ได้ตอบแบบเคลียร์ว่า “ข่าวที่ว่ามิสยูนิเวิร์สเขาเข้าประเทศไม่ได้น่ะเหรอ นี่ก็ได้คุยกับ ND ... Read more »

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งรถแจ๊ซเมาหนักเดินเซขึ้นรถตำรวจ หลังจากพยายามขับรถพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ แถมไม่สลดในมือยังถือกระป๋องเบียร์ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจ สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ เฉี่ยวชนกันจนเกิดพลิกคว่ำ บริเวณอุโมงค์ท่าพระ มุ่งหน้าจาก ถนน จรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าถนน รัชดาท่าพระ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงลาดขาลงทางลอดอุโมงข้ามแยกใต้แยกท่าพระ ทิศทางมุ่งหน้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าไปทางถนน รัชดาท่าพระ แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ ... Read more »
Top List in the World