ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (26 ม.ค. 67) ปิดตลาดที่ระดับ 1368.15 จุด ปรับตัวลดลง 7.94 จุด เปลี่ยนแปลง 0.58% โดยราคาเปิดตลาดเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับ 1375.76 จุด ซึ่งในช่วงระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1379.89 จุด ก่อนจะปรับตัวลดลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1364.41 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 48,277.69 ล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมบรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (26 ม.ค.67) ต้องยอมรับว่าอาจไม่ค่อยดีนัก โดยมองว่าปัจจัยที่มีผลกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนหลักๆ มาจากกลุ่มแบงก์ที่ประกาศงบออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และโอกาสที่แบงก์จะตั้งรองหนี้ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความกังวลใจที่ส่งผลมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์นี้
และอีกปัจจัยหนึ่งคือ กลุ่มค้าปลีก ที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ยังไม่เห็นความคืบหน้าหรือความชัดเจนในปัจจุบัน ประกอบกับมาตรการ Easy E-Receipt หรือ โครงการลดหย่อนภาษีประจำปี 2567 ที่มีระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งจุดประสงค์คือภาครัฐต้องการให้เกิดการสนับสนุนการบริโภคในประเทศ ซึ่งถูกประกาศออกมาตั้งแต่ปลายไตรมาส 4/2566 ที่อาจเข้ามาช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยในช่วงต้นปีนี้ได้ แต่ก็อาจไปชะลอการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปีแทน
ทั้งนี้ มองว่าในสัปดาห์หน้า (29 ม.ค.- 2 ก.พ. 67) ยังมีประเด็นสำคัญทางการเมือง ทั้งในเรื่องของ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถึงสถานภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และเรื่องถัดไป คือวันที่ 31 มกราคม 2567 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดีหาเสียงของพรรคก้าวไกล ยกเลิก มาตรา 112 ล้มล้างการปกครอง ที่หลายฝ่ายอาจจะกังวลว่าจะถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งหากเป็นในทิศทางที่ดีก็มีโอกาสที่ตลาดจะขานรับเชิงบวก เพราะต่างชาติไม่ชอบการประท้วงหรือลงถนน
โดยมองว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับไทยได้มากขึ้น เพราะทำให้ความขัดแย้งทางนิติสงครามมาเปลี่ยนสถานะเป็นการต่อสู่กันในรัฐสภาแทน กลยุทธ์การลงทุน ในระยะนี้ให้เลือกลงทุนในหุ้นที่มีกระแสเงินสดดี มีหนี้น้อย และให้ปันผลสูง เนื่องจากตลาดตราสารหนี้ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งที่สำคัญ มีการให้ผลตอบแทนสูงถึง 4-5% เช่น TU MAJOR ADVANC อย่างไรก็ดี มองกรอบแนวรับสัปดาห์หน้าไว้ที่ระดับ 1355-1340 จุด และกรอบแนวต้านที่ระดับ 1380-1400 จุด
News Related-
สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน
-
สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก
-
ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4
-
อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา
-
'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ
-
TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น
-
“นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน
-
มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ
-
กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน
-
น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)
-
เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล
-
กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา
-
SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร
-
สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด