ดุเดือด! สหรัฐฯ โจมตีขีปนาวุธกลุ่มกบฏฮูตี รอบที่ 5

ดุเดือด! สหรัฐฯ โจมตีขีปนาวุธกลุ่มกบฏฮูตี รอบที่ 5

ตอนนี้สถานการณ์การสู้รบระหว่างสหรัฐฯ และกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน บริเวณพื้นที่ทะเลแดงยังคงดุเดือดต่อเนื่อง หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา หน่วยบัญชาการทหารภาคกลางของสหรัฐฯ หรือ U.S. Central Command ได้รายงานว่า เมื่อช่วงเวลา 03.40 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรได้โจมตีขีปนาวุธต่อต้านเรือจำนวน 2 ลูก ที่ถูกติดตั้งไว้เพื่อโจมตีเรือที่แล่นผ่านพื้นที่ทางตอนใต้ของทะเลแดง  นี่ถือเป็นการโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีครั้งที่ 5 ของสหรัฐฯ ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น

หลังจากเปิดฉากโจมตี ซาบรินา ซิงห์ รองโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงข่าว โดยยืนยันว่า การโจมตีของสหรัฐฯ เป็นไปเพื่อปกป้องตนเอง และสหรัฐฯ ไม่ได้ต้องการสงคราม รวมถึงไม่ต้องการให้สงครามขยายวงไปในระดับภูมิภาค

การโจมตีของสหรัฐฯในแผ่นดินเยเมนเริ่มขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคมเป็นต้นมา ในวันนั้น สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ใช้เครื่องบินรบ เรือ และเรือดำน้ำเปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่ 60 จุด ใน 16 พื้นที่ทั่วเยเมน

เป้าหมายการโจมตีคือระบบเรดาร์ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และสถานที่จัดเก็บและปล่อยโดรน ขีปนาวุธร่อน ที่กลุ่มบฏฮูตีใช้ในการโจมตีเรือสินค้าที่ผ่านทะเลแดงสหรัฐฯ ให้เหตุผลในการเปิดโจมตีว่า เพื่อลดศักยภาพของกบฏฮูตีในการคุกคามเรือสินค้าในทะเลแดงที่เริ่มหนักขึ้นทุกวัน

ทะเลแดงคือเส้นทางการค้าที่สำคัญที่สุดเส้นหนึ่งของโลก เชื่อมยุโรปเข้ากับเอเชียโดยผ่านคลองสุเอซในอียิปต์ การโจมตีของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรในวันดังกล่าว ส่งผลให้มีนักรบของกลุ่มกบฏฮูตีเสียชีวิต 5 คน และบาดเจ็บอีก 6 คน

กลุ่มกบฏฮูตีประกาศไม่กลัวและจะไม่หยุดโจมตีเรือเดินสมุทร รวามถึงพยายามโจมตีเรือรบลาบูนและกองเรือยูเอสเอส ดไวท์ ดี ไอเซนฮาวร์ ของสหรัฐฯ ด้วยนับตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนถึงเมื่อวานนี้ กลุ่มกบฏฮูตีโจมตีเรือที่แล่นผ่านทะเลแดงไปแล้วทั้งสิ้น 26 ลำ และสามารถยึดเรือเอาไว้ได้ 1 ลำ

เรือลำที่ถูกกลุ่มกบฏฮูตียึดครอง คือ กาแล็กซี ลีดเดอร์  นี่เป็นเรือลำแรกที่ตกเป็นเป้าของการโจมตีในทะเลแดง โดยเจ้าของเรือลำดังกล่าว คือ อับราฮัม อันการ์ บริษัทสัญชาติอิสราเอล

กลุ่มกบฏฮูตีโจมตีเรือพาณิชย์สหรัฐฯ

ส่วนเรือลำล่าสุดที่ถูกโจมตี คึอ เคม แรนเจอร์ เรือสัญชาติสหรัฐฯ U.S. Central Command ระบุว่า กลุ่มกบฏฮูตีเปิดฉากโจมตีเรือสินค้าลำนี้ในช่วงสามทุ่มตามเวลาท้องถิ่น  อย่างไรก็ดี เรือลำดังกล่าวไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด เนื่องจากมีเรือของกองทัพเรืออินเดีย ซึ่งตั้งกองเรือขึ้นมาคุ้มครองบริเวณเส้นทางการเดินเรือบริเวณมหาสมุทรอินเดียและอ่าวเอเดน เข้ามาให้ความช่วยเหลือ  การโจมตีครั้งนี้มีขึ้นหลังจากกองทัพสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินไปโจมตีสกัดขีปนาวุธต่อต้านเรือบนแผ่นดินเยเมน

หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า การโจมตีขอสหรัฐฯ จะสามารถหยุดฮูตีได้หรือไม่ และจากนี้จะเกิดการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างสหรัฐกับเยเมนหรือไม่ บริเวณนี้จะกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบหรือไม่ เพราะนอกจากจะโจมตีทางอากาศ ยังมีการนำฮูตีกลับไปขึ้นบัญชีผู้ก่อการร้ายด้วย  กลุ่มกบฏฮูตีคือใครและได้รับการสนับสนุนมากน้อยเพียงใด

เยเมนเมินสหรัฐฯ บรรจุฮูตีเป็นกลุ่มก่อการร้าย

กลุ่มกบฏฮูตี คือ กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านตอนนี้ กลุ่มกบฏฮูตีถือเป็นรัฐบาลโดยพฤตินัยของเยเมน หลังจากเข้ายึดเมืองหลวงอย่างกรุงซานาจากรัฐบาลของประธานาธิบดีอับดู รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี ได้เมื่อปี 2014

เมื่อลงไปดูในรายละเอียดการยึดครองพื้นที่ ตอนนี้กลุ่มกบฏฮูตีเข้าคุมพื้นที่เกือบครึ่งประเทศเยเมน ส่วนใหญ่อยู่ทางด้านเหนือและตะวันตกที่ติดทะเลแดง ซึ่งมีประชากรอยู่มากถึงร้อยละ 70 ของประชากรทั้งประเทศ

ผลจากการโจมตีเรือในทะเลแดง ทำให้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้นำรายชื่อของกลุ่มกบฏฮูตีกลับเข้าไปอยู่ในบัญชีกลุ่มก่อการร้ายอีกครั้ง

หลังจากที่กลุ่มกบฏฮูตีถูกบรรจุเข้าไปอยู่ในรายชื่อของกลุ่มก่อการร้าย ประชาชนจำนวนไม่น้อยในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน ได้ให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวว่า  พวกเขาไม่พอใจกับการกระทำของสหรัฐฯ และบอกว่าสหรัฐฯ ใช้รายชื่อผู้ก่อการร้ายนี้เพื่อสนองผลประโยชน์ของตนเองและอสราเอล  ขณะที่บางคนบอกว่าไม่สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะพวกเขาสู้ในสงครามนี้มานานแล้ว

หลายฝ่ายมองว่าการออกมาให้ความเห็นเช่นนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของประชาชนที่มีต่อกบฏฮูตีบนแผ่นดินเยเมนเอง ส่วนประเด็นเรื่องการยุติการโจมตี หลายฝ่ายมองว่ายังเป็นไปได้ยาก เนื่องจากจุดยืนของกลุ่มกบฏฮูตีและอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนอาวุธหลัก ชัดเจนว่า การโจมตีเรือในทะเลแดงจะยุติลง ก็ต่อเมื่ออิสราเอลหยุดการโจมตีฉนวนกาซา

กบฏฮูตีรับรองความปลอดภัยเรือรัสเซีย-จีน

อย่างไรก็ดี สำนักข่าวเดอะการ์เดียนรายงานวันนี้ว่า มูฮัมเหม็ด อัล-บูไคตี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มกบฏฮูตี ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรัสเซีย ยืนยันว่า กลุ่มฮูตีจะรับรองความปลอดภัยให้กับเรือสินค้าสัญชาติจีนและรัสเซีย ที่แล่นผ่านทะเลแดง ซึ่งมาตรการนี้จะมีผลกับเรือสัญชาติอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับข้องกับชาติตะวันตกหรืออิสราเอลด้วย

การออกมาให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกับที่เซอร์เก ลารอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกมาแถลงข่าวตำหนิสหรัฐฯ เกี่ยวกับการโจมตีทะเลแดง  รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียระบุว่า การกระทำของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่มีใครอนุญาตให้ชาติพันธมิตรโจมตีเยเมน

นอกจากสถานการณ์ในทะเลแดงแล้ว อีกพื้นที่ที่ต้องติดตามสถานการณ์ คือ การโจมตีกันระหว่างอิหร่านและปากีสถานที่เกิดขึ้นใน 1-2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นโดยมีสงครามใหญ่ในฉนวนกาซาเป็นพื้นหลัง ตอนนี้สถานการณ์ในฝั่งปากีสถานค่อนข้างตึงเครียด

ปากีสถานคุมเข้มความปลอดภัยหลังเหตุระเบิด

สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดบาโลชิสถานทางของปากีสถาน ตอนนี้ภาครัฐได้เพิ่มกองกำลังรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะที่เมืองเฆวตตา เมืองเอกของจังหวัด ด้วยความตึงเครียดของสถานการณ์ในเวลานี้ หลายฝ่ายได้ออกมาแสดงกังวลว่าความขัดแย้งจะลุกลามบานปลาย

เมื่อวานนี้ ปีเตอร์ สแตโน โฆษกสหภาพยุโรปด้านกิจการระหว่างประเทศ ก็ได้ออกมาแถลงข่าวแสดงความกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปากีสถานและอิหร่าน โดยระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่ากังวลเป็นอย่างมาก เพราะทั้งสองประเทศต่างละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกันและกัน

ขณะเดียวกัน ฮาคาน ไฟดาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกี และอัยมาน ซาฟาดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจอร์แดน ได้ออกมาแถลงข่าวร่วมกัน โดยระบุว่า ทั้งสองประเทศจะร่วมกันทำทุกวิถีทางที่ทำได้เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างปากีสถานและอิหร่าน

ด้านโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ตอบคำถามนักข่าวที่มารอทำข่าวอยู่บริเวณทำเนียขาว โดยระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา สะท้อนว่าอิหร่านไม่ได้รับความนิยมในภูมิภาค และสหรัฐฯ จะติดตามเรื่องนี้ต่อไป

แม้สถานการณ์จะส่อเค้ากลายเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น แต่ซูซานน์ มาโลนีย์ รองประธานและผู้อำนวยการด้านนโยบายต่างประเทศประจำสถานบันบรูคคิงส์ สถาบันศึกษานโยบายสาธารณะที่ไม่แสวงหาผลกำไรของสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า

ความขัดแย้งระหว่างปากีสถานและอิหร่านจะไม่ยกระดับขึ้น แม้ว่าความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสองชาติจะยังคงอยู่ เพราะทั้งสองรัฐบาลมีปัญหาอื่นๆ ที่รอการจัดการ

ส่วนความขัดแย้งที่อาจนำไปสู่สงครามในตะวันออกกลางคือ การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งอิหร่านมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้