วันนี้ (3 มีนาคม 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีชาวต่างชาติที่ทำร้ายแพทย์หญิงชาวไทย ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า ขณะนี้ได้มอบกมายให้อธิบดีกรมการปกครอง ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เร่งแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยเฉพาะการปราบแก๊งมาเฟีย หรือผู้มีอิทธิพลชาวต่างชาติในพื้นที่โดยด่วน
“ได้กำชับเรื่องนี้ไปแล้ว โดยเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้หารือกับอธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเราจะต้องไปจัดระเบียบตรงไหนบ้าง และที่ผ่านมายังได้คุยกับ สส.ธนกร วังบุญคงชนะ ที่ไปลงพื้นที่ภูเก็ตมาแล้วมาบอกว่า อยากให้กระทรวงมหาดไทยไปดูในพื้นที่ เพราะมีลักษณะคล้าย ๆ มาเฟียชาวต่างชาติ ซึ่งเดิมเข้าใจว่าเขาเข้ามาเพื่อหากินกับนักท่องเที่ยวชาติของเขา แต่ไป ๆ มา ๆ ชักจะรุกล้ำบานปลายเข้าไปใหญ่” นายอนุทิน ระบุ
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า กระทรวงมหาดไทยจะต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งแก้ปัญหาไม่ให้มีผู้มีอิทธิพลต่างชาติอยู่เหนือประเทศ และมาทำความประพฤติที่ไม่ดีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งส่วนตัวรับไม่ได้อยู่แล้ว เพราะแค่ผู้มีอิทธิพลคนไทย ยังไม่ยอม ดังนั้นการจะให้ชาวต่างชาติมาเป็นผู้อิทธิพลมาเป็นมาเฟียคงยอมไม่ได้เช่นกัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงกรณีชาวต่างชาติที่ทำร้ายแพทย์หญิงชาวไทย ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
“เรื่องมาเฟียต่างชาติ ไม่ต้องถึงชาดา (นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย) หรอก แค่อนุทินคนเดียวก็เอาอยู่แล้ว จะเร่งไปจัดการ โดยชาดาให้ดูผู้มีอิทธิพลคนไทยไป”
ขณะเดียวกันยังมีปัญหาเรื่องของพื้นที่ชายหาดซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะแต่กลับมีการจองว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวนั้น รองนายกฯ ยอมรับว่า จำเป็นต้องใช้กฎหมาย เพราะปัญหาทั้งหมดคือไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ อย่างสมัยตอนเกิดโควิด-19 มีการบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ทุกอย่างก็ดีขึ้น ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ยอมรับว่า แม้ประเทศไทยจะต้องการให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว แต่เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องเคารพกฎหมายของไทย
“นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตามด้วย เพราะบ้านเรามีกฎหมาย มีวิธีการอยู่ มีการทำมาหากิน คนไทยไม่ชอบแบบนี้ เขาก็ต้องเคารพต้องทำตาม ก็ลองดูว่าไม่ว่าต่างชาติคนไหนเข้ามาซ่า มาแอคอาร์ตอะไร จะถูกจัดการหมด ง่ายนิดเดียวแค่ดึงวีซ่า พาสปอร์ตกลับก็จบแล้ว” รองนายกฯ กล่าว
News Related-
สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน
-
สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก
-
ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4
-
อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา
-
'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ
-
TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น
-
“นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน
-
มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ
-
กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน
-
น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)
-
เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล
-
กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา
-
SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร
-
สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด