ส่องเศรษฐกิจ 'เมียนมา' หลังรัฐประหาร 3 ปี GDP หด ประชาชนจนเกือบครึ่งประเทศ

ส่องเศรษฐกิจ 'เมียนมา' หลังรัฐประหาร 3 ปี gdp หด ประชาชนจนเกือบครึ่งประเทศ

ส่องเศรษฐกิจ ‘เมียนมา’ หลังรัฐประหาร 3 ปี GDP หด ประชาชนจนเกือบครึ่งประเทศ

การรัฐประหารในเมียนมาผ่านมา 3 ปีแล้ว แต่เศรษฐกิจในเมียนมายังคงไม่ฟื้นตัว ประชาชนต้องประสบความลำบากจากการที่ต่างชาติถอนการลงทุนเพื่อคว่ำบาตรรัฐบาลเผด็จการทหาร เกือบครึ่งต้องกลายเป็นคนยากจน ราคาของก็เฟ้อจนประชาชนที่มีรายได้ต่ำไม่สามารถเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานได้

ในบทความนี้ ทีม SPOTLIGHT จึงอยากพาทุกคนไปดูสภาพเศรษฐกิจของเมียนมากันว่าหลังจากเกิดการรัฐประหารขึ้นในปี 2021 แล้วมีพัฒนาการแย่ลงอย่างไรบ้าง และอนาคตของเมียนมาจะเป็นอย่างไรท่ามกลางความขัดแย้งที่ยังไม่สงบลง

เศรษฐกิจซบเซาหนัก ต่างชาติคว่ำบาตร การลงทุนลด

ก่อนหน้าที่จะเกิดการรัฐประหารในปี 2021 เศรษฐกิจของเมียนมาเคยพัฒนามาได้ค่อนข้างดีในช่วงหลังจากมีการเลือกตั้งรับรัฐบาลพลเรือนเข้าไปทำงานในปี 2015 โดยมีการเติบโตอยู่ในระหว่าง 3.2-7.5%

ทั้งนี้ เมื่อมีการรัฐประหาร การเติบโตของ GDP ในปี 2021 ก็ดิ่งฮวบลงทันที โดยติดลบถึง 17.9% ซึ่งถือว่าเป็นการหดตัวของเศรษฐกิจครั้งที่ร้ายแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ จากการที่หลายๆ ประเทศ และหลายธุรกิจจากต่างชาติในหลายอุตสาหกรรมประกาศคว่ำบาตรไม่ทำธุรกิจกับเมียนมาเพื่อประท้วงการกระทำของคณะรัฐประหาร 

การคว่ำบาตรที่ส่งผลกระทบร้ายแรงให้กับเมียนมามากที่สุดคือการคว่ำบาตรจากบริษัทใหญ่ในภาคพลังงาน เช่น Chevron จากสหรัฐฯ Petronas จากมาเลเซีย และ TotalEnergies จากฝรั่งเศส เพราะภาคพลังงานเป็นแหล่งรายได้ใหญ่ของเมียนมา ทำให้เมื่อเกิดการคว่ำบาตรไม่ทำธุรกิจ หรือลงทุนจากบริษัทต่างชาติ รายได้และการเติบโตจากเศรษฐกิจของเมียนมาก็ลดฮวบลงไปด้วย

จากข้อมูลของ The Directorate of Investment and Company Administration (DICA) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการลงทุนและการจัดตั้งบริษัทของเมียนมา การลงทุนจากต่างชาติลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร โดยลดลงจาก 3,791.398 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 ลงมาเหลือเพียง 642.084 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2022 และอยู่ที่เพียง 661.621 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี 2023-2024

นอกจากนี้ สหรัฐฯ และชาติตะวันตกยังกีดกันไม่ให้รัฐบาลทหารและธนาคารของรัฐบาลเข้าถึงระบบการเงินโลกซึ่งจำเป็นต่อการทำธุรกิจกับต่างชาติได้ ทำให้บริษัทต่างชาติอีกหลายบริษัทถอนธุรกิจออกไปเพราะกลัวว่าการคว่ำบาตรนี้จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในเมียนมา

การลงทุนที่ลดลงนี้ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของเมียนมายังตกต่ำ รายได้และกำลังซื้อของประชาชนลดลงเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อและราคาสินค้าที่พุ่งขึ้นมหาศาลจากค่าเงินที่อ่อนลง ส่งผลทำให้แม้ในปี 2022-2023 การเติบโตทางเศรษฐกิจของเมียนมาจะกระเตื้องขึ้นมาเป็น 3.4% และ 3.7% ตามลำดับ แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะทำให้ประชาชนเกือบครึ่งใชช้ชีวิตอยู่พ้นขีดความยากจนได้

ส่องเศรษฐกิจ 'เมียนมา' หลังรัฐประหาร 3 ปี gdp หด ประชาชนจนเกือบครึ่งประเทศ

artboard1copy_45

ราคาของพุ่ง ประชาชนเกือบครึ่งกลายเป็นคนยากจน ชนชั้นกลางหายไป

จากข้อมูลของ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประชากรชนชั้นกลางของเมียนมาหายไปถึง 50% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่อัตราประชากรที่อยู่ใต้เส้นความยากจนของรัฐบาลเมียนมา หรือประชากรที่มีเงินใช้จ่ายน้อยกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 24.8% ในปี 2017 มาเป็น 49.7% ในปี 2023 และประชากร 76% ต้องอาศัยอยู่ในภาวะประทังชีพ (subsistence existence) คือไม่ยากจนสุดขีดแต่ก็มีเงินเพียงใช้ไปวันต่อวันให้มีชีวิต

อัตราความยากจนที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลโดยตรงมาจากการรัฐประหารที่ทำให้เกิดความไม่สงบ และการคว่ำบาตรของต่างชาติที่ทำให้คนเมียนมามีงานและรายได้น้อยลง ขณะที่ค่าเงินก็อ่อนลงจนทำให้ราคาสินค้าในประเทศเฟ้อมหาศาล ทำให้ประชาชนบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตได้

ในช่วงปี 2021 ที่เกิดรัฐประหารจนถึงปัจจุบัน เงินจัตอ่อนค่าลงถึง 160% จาก 1,330 จัตต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดือนมกราคมปี 2021 มาเป็น 3,500 จัตต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2024 ขณะที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้นจาก 0.74% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 มาที่ 34.97% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 ก่อนจะลงมาที่ 28.58% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023 ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุด 

ค่าเงินที่อ่อนลงและความขาดแคลนทำให้ราคาสินค้าในเมียนมาเฟ้อขึ้นอย่างมาก เพราะผู้นำเข้าต้องใช้เงินจำนวนมากขึ้นในการนำเข้าสินค้าปริมาณเท่าเดิม

ในช่วงปี 2021-2024 ราคาข้าวสารในเมียนมาเพิ่มขึ้นจากกว่า 160% จาก 16.5 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 44.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อกระสอบ ราคาน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นสองเท่าจาก 1.2 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 2.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ Viss (1.6 กิโลกรัม) ขณะที่ราคาเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน-ออกเทน 95 เพิ่มขึ้น 525% จาก 0.2 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อลิตร

จากการวิเคราะห์ของ UNDP การหายไปของประชากรชนชั้นกลางจะส่งผลต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจในอนาคตของในระยะยาว เพราะประชากรกลุ่มนี้ควรจะเป็นแรงงานและผู้บริโภคกลุ่มสำคัญของประเทศ ทำให้หากไม่มีประชากรที่มีรายได้ถึงระดับกลางในประเทศแล้ว ก็ยากที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้

นอกจากนี้ ความยากจนยังทำให้ประชากรอายุน้อยจำนวนมากในเมียนมาไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ ทำให้เมียนมาเสี่ยงที่จะขาดแคลนแรงงานทักษะสูงในอนาคต ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และทำให้เศรษฐกิจของเมียนมามีโอกาสน้อยลงไปอีกที่จะฟื้นตัวให้ถึงก่อนการรัฐประหารและการระบาดของโควิด-19 ได้

ศก. อยู่ได้เพราะภาคผลิตเสื้อผ้าอุ้ม บางประเทศยังทำธุรกิจด้วย

ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจของเมียนมาจะถดถอยและซบเซาลงจนเข้าขั้นวิกฤต 2 ปัจจัยที่ทำให้เมียนมายังสามารถประคองตัวอยู่ได้ก็คือ อุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้า และการลงทุนและทำธุรกิจจากบางประเทศ รวมไปถึงประเทศไทย ที่ยังคงเดินหน้าทำธุรกิจกับรัฐบาลเผด็จการต่อ แม้รัฐบาลชุดนี้จะละเมิดสิทธิมนุษยชนและใช้ความรุนแรงทั้งทางกฎหมายและทางทหารกับประชาชนที่เห็นต่าง

ในช่วงที่อุตสาหกรรมในเกือบทุกภาคส่วนซบเซา อุตสาหกรรมหนึ่งที่เป็นตัวช่วยพยุงเศรษฐกิจของเมียนมาในขณะนี้คือ “อุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้า” ซึ่งเมียนมาได้เปรียบในฐานะแหล่งแรงงานราคาถูก ที่ทำให้หลายๆ บริษัทเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศ และทำให้อัตราการส่งออกเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2022 

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าอยู่ได้ด้วยการตัดสินใจของ EU ที่จะไม่หยุดป้อนงานให้กับคนงานในเมียนมา ด้วยสาเหตุต่างๆ ทั้งเพราะอยากช่วยเหลือให้คนเมียนมาบางส่วนยังมีรายได้ และต้องการแรงงานราคาถูกที่หาไม่ได้ในที่อื่น ซึ่งก็ตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าบริษัทตะวันตกเหล่านี้ยังคงเปิดโรงงานผลิตในเมียนมาอยู่เพื่อลดต้นทุนการผลิตสินค้า

ในปี 2022 คนงานผลิตเสื้อผ้าในเมียนมามีจำนวนประมาณ 500,000 คน ซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิงมาจากพื้นที่ชนบท โดยมีรายงานว่าแม้จะยังมีรายได้ แต่ก็มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในช่วงที่ราคาของเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงต้องเจอกับสภาพการทำงานที่ไม่ได้มาตรฐาน 

นอกจากนี้ แม้จะถูกรัฐบาลตะวันตกคว่ำบาตร เมียนมายังได้รับการสนับสนุนด้านการลงทุนจากบางประเทศที่ยังคงทำธุรกิจในเมียนมาต่อโดยไม่สนใจสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะสิงคโปร์ จีน และไทย ที่เป็น 3 ประเทศที่ลงทุนในเมียนมามากที่สุดในโลก 

โดยจากข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 2567 มูลค่าการลงทุนของแต่ละประเทศในเมียนมาเป็นดังนี้

  1. สิงคโปร์ มูลค่า 9.5 แสนล้านบาท (28.03% ของมูลค่าการลงทุนต่างชาติทั้งหมด) 65,549 ล้านบาทเกิดขึ้นหลังเกิดรัฐประหาร
  2. จีน มูลค่า 8 แสนล้านบาท (23.47% ของมูลค่าการลงทุนต่างชาติทั้งหมด) 17,798 ล้านบาทเกิดขึ้นหลังเกิดรัฐประหาร
  3. ไทย มูลค่า 4.2 แสนล้านบาท (12.49% ของมูลค่าการลงทุนต่างชาติทั้งหมด) 4,746 เกิดขึ้นหลังรัฐประหาร

ตัวอย่างการลงทุนที่สำคัญของไทยในเมียนมาก็คือ การลงทุนของบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ร่วมกับ Myanma Oil and Gas Enterprise (MOGE) รัฐวิสาหกิจที่เป็นท่อเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดของของรัฐบาลทหารเมียนมา ใน 2 แหล่งก๊าซธรรมชาติ คือ

  1. แหล่งก๊าซธรรมชาติ  “ยาดานา” ในอ่าวเมาะตะมะซึ่งปัจจุบัน ปตท.สผ. ถือหุ้นอยู่ 62% หลังทั้ง Chevron และ TotalEnergies ถอนตัว และ แหล่งก๊าซธรรมชาติ 
  2. แหล่งก๊าซธรรมชาติ “ซอติก้า”  ในอ่าวเมาะตะมะซึ่งปัจจุบัน ปตท.สผ. ถือหุ้นอยู่ 80%

ทั้งนี้ การลงทุนของต่างชาติเหล่านี้ก็เห็นได้ชัดว่าส่งผลดีต่อรัฐบาลเผด็จการทหารเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลดีต่อประชาชนของเมียนมาโดยรวมเพราะประชาชนไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับรัฐวิสาหกิจมากนัก อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนในรัฐบาลนี้กดขี่ประชาชนต่อไป

ดังนั้น สิ่งที่เมียนมาและประเทศโดยรอบควรกระทำคือสนับสนุนให้เกิดเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ และจัดให้เกิดการเลือกตั้งเพื่อตั้งรัฐบาลพลเรือนโดยเร็ว เพื่อให้นานาชาติกลับมาทำธุรกิจกับเมียนมาอีกครั้งก่อนที่สภาพเศรษฐกิจจะเลวร้ายลงจนสายเกินแก้ และทำให้ประชาชนหลายรุ่นต้องเสียโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองให้ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

 

อ้างอิง: UNDP, East Asia Forum, The Irrawaddy, DICA

อ่านข่าวต้นฉบับ:

อมรินทร์ทีวี ทันข่าวได้ที่

เว็บไซต์:www.amarintv.com

เรื่องธุรกิจที่ :ติดตาม SPOTLIGHT มองขาดทุกโอกาสธุรกิจ

News Related
  • สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน

    Courtesy of ByteDance https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334883.mp3?cb=1701136108.mp3 สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า ByteDance บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมอย่าง TikTok สั่งปลดพนักงานในแผนกเกมออกราว 1,000 คน พร้อมยกเลิกการพัฒนาเกมที่ยังไม่ได้เปิดตัวทั้งหมด และเตรียมขายเกมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้บริษัทอื่นด้วย แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ByteDance มองว่าธุรกิจเกมไม่ได้สำคัญมากนักและมีโอกาสที่จำกัดในการสร้างรายได้ บริษัทจึงเลือกที่จะทุ่มเทกับธุรกิจหลักมากกว่า เช่น TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่พ่วงมากับอีคอมเมิร์ซ ซึ่งกำลังประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งนี้ ByteDance เคยมีความทะเยอทะยานอย่างมากกับธุรกิจเกม และต้องการต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent Holdings บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากรายได้ โดย ByteDance ได้ลงทุนอย่างจริงจังในธุรกิจเกมมาตั้งแต่ปี 2016 และในระหว่างปี 2019 ถึงปี 2022 พวกเขาทุ่มเงินมากถึง 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 151,200 ล้านบาท เพื่อลงทุนในบริษัทเกมมากกว่า 19 แห่ง ความทะเยอทะยานของ ByteDance ค่อย ๆ ลดลงจากผลงานที่น่าผิดหวัง ...
    See Details: สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน
  • สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก

    สุภโชค สารชาติ เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขัน เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 ได้ประกาศโปรแกรมการแข่งขันในปีนี้ออกมาแล้ว สำหรับปีนี้จะใช้ชื่อเต็มว่า ไทยประกันชีวิต เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 พาวเวอร์ดบาย เมจิ ยาสึดะ หลังได้ ไทยประกันชีวิต เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักอีกทั้งยังได้เซ็นข้อตกลงกับบริษัท นิคอน คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ “บรอนซ์ พาร์ทเนอร์” ด้วย เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 จะมี 4 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วย 2 ทีมไทยลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่วนทีมจากเจลีก ประกอบด้วย ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ เซเรโซ ...
    See Details: สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก
  • ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4

    ภาพประกอบข่าว ครม. เคาะกฎกระทรวงขยายเวลาให้สถานบริการที่ตั้งในโรงแรมถูกกฎหมาย สถานบริการที่ตั้งใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย ได้ถึง 4.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 พ.ย. 2566 ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่….) พ.ศ… ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฯ จะกำหนดให้สถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังต่อไปนี้เปิดให้บริการได้ถึงเวลา 4.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้ ได้แก่ สถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม, สถานบริการที่ตั้งอยู่ในท้องที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาพประกอบข่าว สำหรับท้องที่อื่นที่ประสงค์จะให้สถานบริการเปิดทำการได้ถึง 4.00 ...
    See Details: ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4
  • อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา

    Elon_Musk_Plan_City_Cover https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334745.mp3?cb=1701136565.mp3 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน อิสราเอลได้ต้อนรับการมาเยือนของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ในระหว่างที่หยุดทำสงครามกับฮามาสเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงในหลักการสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ในฉนวนกาซา หลังจากมัสก์รับปากว่าจะให้การช่วยเหลือการเชื่อมต่อเน็ตในฉนวนกาซาผ่าน “องค์กรช่วยเหลือที่สากลยอมรับ” ในช่วงที่อิสราเอลเริ่มถล่มฉนวนกาซาอย่างหนักจนการสื่อสารถูกตัดขาดลง ช่วงบ่ายของวันจันทร์ ไอแซค เฮอร์ซอก (Isaac Herzog) ประธานาธิบดีของอิสราเอลมีกำหนดจะพูดคุยกับมัสก์ และพวกเขาจะเข้าร่วมพูดคุยกับญาติของตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาจับตัวไว้ เพื่อหาทางต่อสู้กับการต่อต้านชาวยิวที่เพิ่มขึ้นบนโลกออนไลน์ ในวันเดียวกัน เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีกำหนดหารือกับมัสก์เกี่ยวกับความปลอดภัยของเอไอ และจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์ หลังจากทั้งสองพึ่งพบกันล่าสุดในแคลิฟอร์เนียเมื่อ 18 กันยายน เกี่ยวกับการต่อต้านชาวยิวบนแพลตฟอร์ม X และหาจุดสมดุลของเสรีภาพในการแสดงออก ปลายเดือนตุลาคม ช่วงที่มัสก์เผยว่าจะมอบเน็ตสตาร์ลิงก์ให้ใช้งานในฉนวนกาซา ชโลโม คาร์ฮี (Shlomo Karhi) กสทช. ของอิสราเอลได้แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ากลุ่มฮามาสจะนำเน็ตไปใช้ในการก่อการร้าย แต่การพูดคุยล่าสุดเน็ตสตาร์ลิงก์จะถูกใช้ในอิสราเอลเฉพาะเมื่อได้รับอนุมัติจากกระทรวงคมนาคมของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงในฉนวนกาซาด้วย ...
    See Details: อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา
  • 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ

    ‘ไบท์แดนซ์’ จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก ‘เทนเซ็นต์’ ไม่สำเร็จ สำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างอิงแหล่งข่าวเผยว่า ไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ติ๊กต็อกวางแผนปลดพนักงานฝ่ายเกมมิงและยุบธุรกิจพัฒนาเกมที่เป็นหน้าเป็นหน้าของบริษัทอย่าง Nuverse ถือเป็นการถอนตัวออกจากอุตสาหกรรมเกมครั้งใหญ่ ยกชัยชนะให้กับคู่แข่งอย่างเทนเซ็นต์ทันที แหล่งข่าวระบุว่า ไบท์แดนซ์ เตรียมปลดพนักงานหลายร้อยคน รวมทั้งยุบหลายโครงการที่กำลังพัฒนาและฉุดศักยภาพยอดขายของธุรกิจที่มีอยู่ ตามที่รอยเตอร์เคยรายงานหน้านี้ บริษัทยังพิจารณาขายเซี่ยงไฮ้ มูนตัน เทคโนโลยี สตูดิโอพัฒนาวิดีโอเกมชั้นนำที่ซื้อมาด้วยมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ (1.4 แสนบาท) เมื่อปี 2564 ด้วย การสร้างเกม ถือเป็นธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ปีก่อน ไบท์แดนซ์เริ่มปิดสตูดิโอของตนเองและปลอดพนักงานฝ่ายพัฒนาหลายคน หลังเปลี่ยนไปโฟกัสธุรกิจหลักอย่างติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ๆ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเดือนนี้ก็ปลดพนักงานเกือบ 1 ใน 4 ของฝ่ายพิโค (Pico) ธุรกิจอุปกรณ์โลกเสมือน ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ภาคธุรกิจเกมในโทรศัพท์มือถือของจีน ประสบปัญหาฟื้นธุรกิจให้ถึงจุดสูงสุดเหมือนช่วงโควิด-19 ในขณะที่เศรษฐกิจโลกชอละตัว ไบท์แดนซ์จึงค่อย ๆ ลดความทะเยอทะยานในอุตสาหกรรมเกม เมื่อไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเทนเซ็นต์ได้ ในทางกลับกันผู้นำอุตสาหกรรมเกมอย่างเทนเซ็นต์ ยังคงรักษาการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน เพราะได้รับแรงหนุนจากเครดิตผู้นำอุตสาหกรรม ...
    See Details: 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ
  • TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น

    ภาพประกอบข่าว TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้เศรษฐกิจโลกปี 2567 จะโตแบบชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2566 ผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดในรอบหลายทศวรรษ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง แต่ไม่เลวร้ายถึงขั้น “เศรษฐกิจถดถอย”  แนะลงทุนพันธบัตรเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน 8-15% ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลขาดทุนของพอร์ตโดยรวม นายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) (Mr.Thammarat Kittisiripat, Head of Economic Unit, TISCO Economic Strategy Unit) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2567 จะชะลอตัวลง อันเป็นผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่จะส่งผลกดดันต่อกิจกรรมเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ทั้งกิจกรรมด้านบริการและภาคการผลิต นอกจากนี้ ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางต่างๆ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ ทำให้ TISCO ESU ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 2567 จะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารกลางจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวแต่ยังให้น้ำหนักไม่มาก ที่จะเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” โดยหากอ้างอิงจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มที่ “พัฒนาแล้ว” จะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ...
    See Details: TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น
  • “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน

    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  ผู้แทนการค้าไทย หารือผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย และตัวแทนบริษัทส่งออกผลไม้ไทย เพื่อร่วมมือผลักดันการส่งออกโคและผลไม้ไทยไปจีน ผู้แทนการค้ากล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การส่งออกเดือน ต.ค.2566 มีมูลค่า 23,578.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% เป็นบวกต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 13 เดือน นับจากเดือนก.ย.2565 ซึ่งการส่งออกที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 9.3% โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 12.3% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5.9% สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง อาหารสุนัขและแมว ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง สิ่งปรุงรสอาหาร ผักกระป๋องและผักแปรรูป ผู้แทนการค้ากล่าวว่า สินค้าเกษตรจึงเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของไทย จากการหารือกับสมาคมผู้ส่งออกฯ ที่ผ่านมาประเทศไทยติดปัญหาการส่งออกโคมีชีวิตไปยังประเทศจีน ซึ่งต้องให้ผ่านการรับรองจาก ...
    See Details: “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน
  • มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน
  • น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)
  • เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล
  • กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา
  • SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร
  • สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

OTHER NEWS

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด!

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด! รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ เดือดสุด !! เพราะเป็นรอบที่น้องๆ ทีมสีส้ม “ไข่มุก-ชาโอม-จอย” และทีมสีม่วง “ฟิว-ทศกัณฐ์-ปอนด์” ต้องมานั่งโต๊ะเป็นผู้ประกาศข่าวจริงๆ รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ ใน THE REAL NEXT GEN อมรินทร์เน็กซ์เจน Presented By est cola รายการเรียลลิตี้ ... Read more »

นายกฯ เผย ครม.เคาะขึ้นเงินเดือน ขรก.แล้ว รอฟังโฆษกแถลงได้เลย

ภาพประกอบข่าว นายกฯ เผย ครม.พิจารณาวาระขึ้นเงินเดือนแล้ว ให้โฆษก รบ.แถลง พร้อมเรียก รมต.เพื่อไทยถกต่อ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันนี้ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาวาระการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งมอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกฯเป็นผู้แถลง ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังนายกฯเป็นประธานการประชุม ครม.ชุดใหญ่แล้ว นายกฯได้เชิญรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ... Read more »

ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’!

ภาพประกอบข่าว ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’! จากรกรณีที่ เด่นนาโพธิ์ ส.ธัญญาลักษณ์ นักมวยไทย ขึ้นชกกับ ก้องนภา ศรีมงคล เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่เวทีมวยวัดบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยการชกครั้งนี้ เด่นนาโพธิ์ แพ้น็อกไปอย่างกังขาในยกที่ 3 ทั้งที่ เด่นนาโพธิ์ เป็นฝ่ายฟันศอก ก้องนภา ... Read more »

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ ก่อนแง้มข่าวดีกลางปีหน้า แม้ว่าก่อนหน้านี้ บริษัท PP Krit Entertainment ของศิลปินนักแสดงชื่อดัง พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ได้ออกหนังสือชี้แจงมาตรการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของศิลปิน หลังมีบุคคลบางกลุ่มพยายามละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่ดูเหมือนว่ายังคงมีหลายคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎดังกล่าว จนเป็นเหตุให้คนใกล้ชิดต้องออกมาพูดเตือนสติเรื่องนี้อีกครั้งผ่านทางโซเชียล ล่าสุดเจอ พีพี ในงาน centralwOrld Light Up Christmas Tree Celebration ที่ ลานสแควร์A หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ... Read more »

สมยศ เผยเซ็นสัญญา"อิชิอิ"คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน

สมยศ เผยเซ็นสัญญา”อิชิอิ”คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน จากกรณี “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ประกาศอย่างเป็นทางการแยกทาง มาโน่ โพลกิ้ง จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน หลังผลงานคัดบอลโลก 2 นัดแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่น อดีตกุนซือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ แทนทันที ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เผยว่าเรื่องการเลือกโค้ช เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน มาดามแป้ง ... Read more »

ปุ้ย TPN อัปเดต มิสยูนิเวิร์ส 2023 หลังรัฐบาลนิการากัว สั่งห้ามเข้าประเทศ

หลังจากจบการประกวด Miss Universe 2023 แต่งานนี้ก็ยังมีเรื่องให้ ปุ้ย ปิยาภรณ์ หรือที่แฟนนางงามรู้จักในชื่อ ปุ้ย TPN ต้องมาชี้แจงหลายประเด็นที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ Miss Universe คนล่าสุดเข้าประเทศไม่ได้ หรือประเด็นที่บริษัท TCG จะฟ้อง JKN ซึ่ง JKN เป็นบริษัทแม่ และ TPN เป็นบริษัทลูก จะโดนร่างแหไปด้วยหรือไม่ งานนี้เจ้าตัวก็ได้ตอบแบบเคลียร์ว่า “ข่าวที่ว่ามิสยูนิเวิร์สเขาเข้าประเทศไม่ได้น่ะเหรอ นี่ก็ได้คุยกับ ND ... Read more »

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งรถแจ๊ซเมาหนักเดินเซขึ้นรถตำรวจ หลังจากพยายามขับรถพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ แถมไม่สลดในมือยังถือกระป๋องเบียร์ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจ สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ เฉี่ยวชนกันจนเกิดพลิกคว่ำ บริเวณอุโมงค์ท่าพระ มุ่งหน้าจาก ถนน จรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าถนน รัชดาท่าพระ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงลาดขาลงทางลอดอุโมงข้ามแยกใต้แยกท่าพระ ทิศทางมุ่งหน้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าไปทางถนน รัชดาท่าพระ แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ ... Read more »
Top List in the World