ไทยจะได้วัตถุโบราณคืนจากสหรัฐฯ แค่ในนามหรือไม่ หลังกรมศิลปากรลงนาม MOU กับ The MET
การลงนามบันทึกข้อตกระหว่างกรมศิลปากรและ The MET เมื่อวันที่ 25 เม.ย.
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (The MET) ในสหรัฐฯ เตรียมส่งคืนโกลเด้นบอยและประติมากรรมสตรีให้กับทางการไทยในเดือน พ.ค. นี้ โดยระหว่างที่กรมศิลปากรส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสภาพศิลปะวัตถุทั้ง 2 รายการ พบว่ามีการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมศิลปากรและทางพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวด้วย
หนึ่งในคณะกรรมการการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย แสดงความกังวลต่อบีบีซีไทยว่าการลงนามในข้อตกลงดังกล่าวจะเปิดช่องให้ไทยได้โบราณวัตถุคืนมาเพียงในนามเท่านั้น
ด้านอธิบดีกรมศิลปากรชี้แจงว่า การลงนามดังกล่าวเป็นเพียงบันทึกข้อตกลงทางวิชาการเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อขั้นตอนการทวงคืนโบราณวัตถุของไทยจาก The MET แต่อย่างใด
กรมศิลปากรเซ็น MOU กับ The MET ของสหรัฐฯ
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทันหรือ The MET (The Metropolitan Museum of Art) ซึ่งตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้มีพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจหรือ MOU (Memorandum of Understanding) ระหว่างกรมศิลปากร โดยนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กับพิพิธภัณฑ์ The Met โดยนายแม็กซ์ ฮอลลีน ผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหารพิพิธภัณฑ์ฯ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา
โดยมี นางสาวนิตยา กนกมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เป็นผู้แทนอธิบดีกรมศิลปากร และ นางสาวสมใจ ตะเภาพงษ์ จากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ร่วมเป็นสักขีพยาน
ในข่าวประชาสัมพันธ์ของ The MET ระบุว่า การลงนามในครั้งนี้เป็นการแสดงความมุ่งมั่นร่วมกันในการแลกเปลี่ยนศิลปะ ความเชี่ยวชาญ การแสดงศิลปวัตถุ และการศึกษาศิลปะไทย ในนามของราชอาณาจักรไทยและทางพิพิธภัณฑ์ฯ
ใน MOU ฉบับนี้ ระบุวัตถุประสงค์ความร่วมมือระหว่าง 2 ฝ่ายไว้ว่า ทางกรมศิลปากรของไทยและ The MET ตกลงที่จะมีความร่วมมือกันในด้านศิลปะและวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะรูปแบบศิลปะลพบุรี หรือที่รู้จักกันในชื่อว่าศิลปะเขมรที่มีต้นกำเนิดจากประเทศไทย โดยความร่วมมือกันในครั้งนี้ ไม่จำกัดอยู่ที่งานศึกษา วิจัย อนุรักษ์ และจัดแสดงโบราณวัตถุรูปแบบศิลปะลพบุรีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแลกเปลี่ยนและการให้ยืมศิลปะวัตถุด้วย เช่นเดียวกันกับการแลกเปลี่ยนและการให้ยืมผู้เชี่ยวชาญ
ใน MOU ฉบับเดียวกันนี้ ยังระบุด้วยว่า บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ไม่ก่อให้เกิดสิทธิหรือพันธกรณีอันมีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และจะนําไปปฏิบัติภายใต้กรอบของกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องของราชอาณาจักรไทยและสหรัฐอเมริกา
ข้อพิพาทใด ๆ ระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจนี้ จะได้รับการตัดสินอย่างเป็นมิตรผ่านการหารือ การปรึกษาหารือ หรือการเจรจาด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน โดยไม่ต้องอ้างอิงถึงบุคคลที่สาม ศาลยุติธรรม หรือศาลระหว่างประเทศ
“The Met รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับเพื่อนร่วมงานผู้มีเกียรติที่เป็นตัวแทนประเทศไทยมายังพิพิธภัณฑ์ในวันนี้ ข้อตกลงนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการเสริมสร้างความเข้าใจและความซาบซึ้งในศิลปะและวัฒนธรรมไทยของโลก เราให้ความสําคัญกับการเจรจาที่เปิดกว้างและต่อเนื่องกับราชอาณาจักรไทย และหวังว่าจะได้ความร่วมมือในอนาคต” นายแม็กซ์ ฮอลลีน ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ของพิพิธภัณฑ์
ด้านกงสุลใหญ่สมใจ ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อความสำเร็จของการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างหน่วยงานทั้งสองแห่ง ที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกาในฐานะพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ดีในทุกมิติ
ข้อพิพาทระหว่าง the MET กับไทย กรณีการทวงคืนวัตถุโบราณ
ย้อนไปในปี 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้แต่งตั้งคณะกรรมการการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย เพื่อทวงคืนโบราณวัตถุไทยที่ถูกลักลอบนำออกนอกประเทศและจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในต่างประเทศ โดยกรรมการชุดดังกล่าวได้ส่งรายการวัตถุและศิลปะโบราณของไทยจำนวนอย่างน้อย 35 ชิ้น ซึ่งพบว่าอยู่ในการครอบครองของพิพิธภัณฑ์ในสหรัฐฯ จำนวน 7 แห่ง และหนึ่งในนั้นคือ The MET
รายชื่อศิลปวัตถุทั้งหมด รวมถึงหลักฐานพยานที่บ่งชี้ว่าศิลปวัตถุดังกล่าวเคยมีต้นกำเนิดในประเทศไทยก่อนถูกลักลอบส่งออกนอกประเทศ จะถูกส่งให้กับฝ่ายสืบสวนของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ หรือ เอชเอสไอ (Homeland Security Investigation-HSI) ซึ่งทำงานร่วมกับอัยการของสหรัฐฯ ในการฟ้องต่อศาลเพื่อดำเนินการให้ทางพิพิธภัณฑ์พิสูจน์ว่าตนเองไม่ได้ครอบครองของที่ขโมยมาจริงหรือไม่ หากทางพิพิธภัณฑ์ไม่สามารถมีหลักฐานมายืนยัน ก็จำเป็นต้องส่งโบราณวัตถุดังกล่าวคืนสู่ประเทศต้นกำเนิด
ปัจจุบัน ไทยยังไม่ได้รับโบราณวัตถุที่อยู่ในความครอบครองของ MET คืนมาทั้งหมด โดยเฉพาะประติมากรรมสำริดศิลปะไพรกะเม็งขนาดใหญ่ที่สุด “พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร” ความสูง 1.42 เมตร หนึ่งในพระสำริดกรุประโคนชัยทั้งหมด 18 ชิ้น ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการทวงคืนจากพิพิธภัณฑ์ 7 แห่งในสหรัฐอเมริกา
ทั้งหมดเป็นประติมากรรมสำริดที่ นายดักลาส แลตช์ฟอร์ด หรืออีกชื่อคือ นายภัคพงษ์ เกรียงศักดิ์ ชาวอังกฤษ สัญชาติไทย อดีตนายกสมาคมกีฬาเพาะกายแห่งประเทศไทย และนักสะสมศิลปะที่ถูกอัยการเขตนิวยอร์กใต้ตั้งข้อหาค้าโบราณวัตถุผิดกฎหมายเมื่อปี 2562 ปลอมแปลงและบิดเบือนที่มา และส่งขายให้นักค้าศิลปวัตถุตามบริษัทประมูลต่าง ๆ รวมถึงพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม The MET เตรียมส่งคืนประติมากรรมพระศิวะสำริด ที่รู้จักในชื่อ โกลเด้นบอย (Golden Boy) และโบราณวัตถุประติมากรรมสตรีให้กับไทยในเดือน พ.ค. นี้ โดยทั้ง 2 รายการเป็นศิลปวัตถุที่ทางพิพิธภัณฑ์ต้องการส่งคืนประเทศต้นทาง เนื่องจากพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับนายดักลาส
ดำรง ชี้ MOU นี้กระทบการทวงคืนโบราณวัตถุไทย
นายดำรง ลีลานุรักษ์ หนึ่งในคณะกรรมการการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศฯ บอกกับบีบีซีไทยว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากรกับ The MET อาจกระทบกับกระบวนการทางกฎหมายที่ทาง HSI ของสหรัฐฯ กำลังดำเนินการติดตามทวงคืนวัตถุโบราณให้กับประเทศไทยได้
“ผมถามว่า [กรมศิลปากร] มีอำนาจหรือได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลไทยให้ไปลงนามในขั้นเป็นตัวแทนของรัฐบาลหรือไม่” นายดำรงตั้งข้อสังเกตกับบีบีซีไทย “คณะกรรมการทวงคืนโบราณวัตถุฯ ไม่ได้รู้เรื่อง ถูกปกปิด ทางกรมศิลปากรไม่เคยนำเรื่องนี้มาแจ้ง ผมถามว่ามติที่ประชุมให้ทวงคืนจาก The MET แล้วทางกรมศิลปากรไปตกลงว่าความขัดแย้งระหว่างไทยกับ The MET ให้เป็นการตกลงระหว่าง 2 ฝ่ายได้อย่างไรกัน”
เขาตั้งคำถามว่าการลงนาม MOU ครั้งนี้เป็นความพยายามกีดกัน HSI และอัยการของสหรัฐฯ ให้ออกจากข้อพิพาทระหว่างทางการไทยกับ The MET หรือไม่
“ทาง HSI เคยเตือนทางการไทยมาครั้งหนึ่งว่าจะมีพิพิธภัณฑ์ที่กำลังขึ้นศาลจะติดต่อขอเกี้ยเซียะกับรัฐบาลไทย” โดยเขายกตัวอย่างกรณีการคืนทับหลังหนองหงส์และเขาโล้นในปี 2564 ที่ทางพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ชอง มูน ลี นครซานฟรานซิสโก ขอนำส่งคืนให้กับทางการไทยผ่าน HSI จึงทำให้ตนเองไม่ต้องรับโทษฐานครอบครองของโจรตามกฎหมายของสหรัฐฯ
“ถ้าคุณศึกษามา คุณจะเห็นว่าทาง The MET มีความพยายามไม่ให้มีเรื่องผ่านศาล และพยายามตกลงกับเจ้าทุกข์โดยตรงว่า ‘เราจะตกลงว่าของชิ้นนี้เป็นของประเทศคุณ แต่ไม่ใช่เราจะคืนคุณนะ แต่เราขอให้จัดแสดงอยู่ที่เราตลอดไป’ เหมือนกับขอยืม” นายดำรงตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติม เมื่อเห็นการระบุใน MOU ที่อาจเปิดช่องให้เกิดการแลกเปลี่ยนและการให้ยืมศิลปะวัตถุกันและกันระหว่างกรมศิลปากรและ The MET ได้ ซึ่งเขาเกรงว่า “ไทยอาจได้โบราณวัตถุคืนจาก The MET เพียงในนาม แต่ของไม่ได้ถูกส่งกลับมายังที่ไทย” อย่างที่หลายฝ่ายตั้งตาคอย
อธิบดีกรมศิลปากรโต้ “ไม่เป็นความจริง”
“มันไม่มีอะไรเป็นความจริงเลยครับ ผมกำลังให้ฝ่ายกฎหมายของผมดำเนินการอยู่ว่าจะฟ้องหมิ่นประมาทคุณดำรงหรือไม่” นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เอ่ยประโยคนี้เป็นประโยคแรกเมื่อทางบีบีซีไทยติดต่อขอความเห็นต่อข้อสังเกตของนายดำรง
อธิบดีกรมศิลปากรชี้แจงต่อว่า MOU ดังกล่าวเป็นบันทึกข้อตกลงทางวิชาการเท่านั้น ซึ่งทางกรมศิลปากรเคยทำกับพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในประเทศต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนงานจัดแสดงศิลปะวัตถุ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเอื้อให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกัน และทำให้พิพิธภัณฑ์ศิลปะของไทยมีงานศิลปะวัตถุจากประเทศอื่น ๆ หมุนเวียนมาจัดแสดงให้สาธารณะรับชม โดยเขายืนยันว่า MOU ที่ลงนามกับ The MET นั้นเป็นเพียงข้อตกลงในเชิงหลักการเท่านั้น และการส่ง ผอ.สำนักพิพิธภัณฑ์เดินทางไปสหรัฐฯ ในครั้งนี้ก็เพื่อตรวจสอบสภาพโกลเด้นบอยและประติมากรรมสตรี ซึ่งทาง The MET เตรียมส่งคืนให้ทางการไทย
“ผมทราบดีว่าการตกลงคืนโบราณวัตถุซึ่งทางการไทยทำกับสหรัฐฯ นั้นเป็น agreement (ข้อตกลง) ไม่ใช่แค่ MOU แล้วตัว agreement มันต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มันต้องผ่านตามขั้นตอน เพราะเดี๋ยวต้องมีอัยการและใครต่อใครมาให้ความเห็น ซึ่งตอนนี้กำลังทำ agreement เรื่องโกลเด้นบอยและประติมากรรมสตรี เพื่อเตรียมเสนอให้ทาง ครม. เห็นชอบอยู่ เพราะฉะนั้นเรื่องที่คุณดำรงพูดมันจับแพะชนแกะ” นายพนมบุตร กล่าว
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2566 นายจอห์น กาย ภัณฑารักษ์แผนกเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ The MET เป็นผู้แทนเข้าพบอธิบดีกรมศิลปากรเพื่อส่งมอบหนังสือแจ้งขอส่งคืนโบราณวัตถุจำนวน 2 รายการ ได้แก่ โกลเด้นบอยและประติมากรรมสตรี ซึ่งนายดำรงมองว่า นี่เป็นความพยายามของทางพิพิธภัณฑ์ที่ต้องการส่งคนของตนเองเข้ามาเจรจากับทางการไทย ขณะที่ HSI ของสหรัฐฯ กำลังดำเนินการฟ้องร้องทางพิพิธภัณฑ์อยู่
“มันเป็นทฤษฎีสมคบคิด แกพูดอะไรที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ผมถึงได้บอกว่ากำลังให้ฝ่ายกฎหมายของผมดำเนินการอยู่” นายพนมบุตรบอกกับบีบีซีไทย “ผมอยากบอกว่าสิ่งที่กรมศิลปากรเซ็นไปนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการคืนโบราณวัตถุเลย”
“การลงนามใน MOU เป็นลักษณะความร่วมมือทางวิชาการ ไม่มีรายละเอียดเรื่องอื่น ๆ เลย ซึ่งทางท่านกงสุลฯ ก็เป็นสักขีพยานในเรื่องนี้” นายพนมบุตรยืนยันกับบีบีซีไทย เมื่อสอบถามว่าอาจจะเปิดช่องให้ The MET ใช้บันทึกข้อตกลงนี้ ส่งคืนโบราณวัตถุไทยเพียงแค่ในนามตามที่นายดำรงแสดงความกังวลหรือไม่