โจทย์ใหญ่ ท้าทาย “ขุนคลังป้ายแดง” ดันดิจิทัลวอลเล็ต
โจทย์ใหญ่ ท้าทาย “ขุนคลังป้ายแดง” ดันดิจิทัลวอลเล็ต
การปรับคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ที่ผ่านพ้นไป เรียก ได้ ว่า เป็น การ ปรับครม.ที่เป็นไปตามโผที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เป็น นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบัน มานั่งเป็นขุนคลังป้ายแดง คนที่ 56 แทนนายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เดิมนั่งควบเก้าอี้เองและควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่ง
นายพิชัย ชุณหชิร เป็นที่ยอมรับ ว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์ทั้งในแวดวงการเงิน การบัญชี นั่งตำแหน่งสำคัญๆหลายองค์กร ทั้งในบริษัทเอกชนและหน่วยงานราชการ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ปตท. รวมทั้งตำแหน่งล่าสุดที่มีการลาออกไป นั่นก็คือ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หลายฝ่ายจับตามอง กระทรวงการคลัง ถือเป็นกระทรวงที่มีความสำคัญต่อนโยบาย เรือธง รัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบาย แจกเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัล wallet รวมไปถึงมีความสำคัญในการเร่งผลักดันงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 และงบประมาณปี 68 ซึ่ง ใช้แหล่งเงิน ที่ใช้ในโครงการทัลวอลเล็ตด้วย
มีความเห็นจาก อาจารย์ สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ที่มองว่า แนวนโยบายด้านการคลังของรัฐบาลเศรษฐา 1/1 อาจจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่การการปรับครั้งนี้ ทำให้นายกรัฐมนตรีมีเวลาไปทำงาน ในการวางกลยุทธ์ การบริหารภาพรวมมากขึ้น และหามือ ที่นายกไว้ใจได้ ดูนโยบายด้านการคลังเต็มตัว
สิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่จะต้องเจอ ก็คือความท้าทาย ในการบริหาร นโยบายด้านการคลัง โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัล wallet ที่ต้องบริหารงบประมาณไม่ให้กระทบต่อเสถียรภาพทางการคลัง เพราะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่การหารายได้เพิ่ม ยังทำได้ไม่เต็มที่ และยังไม่ชัดเจน
ส่วนอีกความท้ายทาย มาจากปัญหาเศรษฐกิจประเทศที่โตช้า และโตต่ำกว่า หลายประเทศอื่นในภูมิภาค ถือเป็นอีกโจทย์ใหญ่ ที่รัฐมนตรีคลัง และรัฐบาลต้องหาทางเร่งแก้ เพื่อ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศให้มากขึ้น
ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า หลังปรับ ครม. เห็นภาพทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ที่คล่องตัวขึ้น กระทรวงการคลังมีรัฐมนตรีว่าการ 1 คน และรัฐมนตรีช่วยถึง 3 คน ผลงานที่ออกมา ก็ควรทำงานดีขึ้น
ส่วน โจทย์ใหญ่ขุนคลังคนใหม่ ควรเร่งสร้างความชัดเจนเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งเป็นนโยบายสำคัญ หากพิสูจน์ได้ว่ามาแน่ มาจริง ก็จะทำให้ความเชื่อมั่นเกิดขึ้นทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ แต่ก่อนจะมีดิจิทัลวอลเล็ต รัฐควรเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อสร้างเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจ
ท้ายที่สุดแล้วการเข้ามารับหน้าที่ เป็น ของหัวหอกในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการคลัง จะเป็นไปตามเป้าที่รัฐบาลวางเอาไว้หรือไม่ คงต้องรอดูผลงานหลังจากนี้
แต่นักวิชาการหลายคนมองว่า การบริหารนโยบายการคลังไม่ได้มีแค่ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยเรื่องการเมือง ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งที่ผ่านมา แม้จะเป็นคนที่มีประสบการณ์ ด้านการเงิน การคลังมาก่อน แต่บางครั้งเหตุผลด้านการเมือง ก็มีน้ำหนักมากกว่าเหตุผลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคในการดำเนินนโยบายการคลัง