กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ขอความร่วมมือนายจ้างให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่าง และเสียง พ.ศ. 2559 เพื่อช่วยกันดูแลลูกจ้างไม่ให้ประสบอันตรายและเกิดผลกระทบต่อสุขภาพ เมื่อต้องทำงานเกี่ยวข้องกับความร้อนภายใต้สภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูง
นางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยว่า ปีนี้ประเทศไทยมีอุณหภูมิในช่วงหน้าร้อนที่สูงขึ้นกว่า 40 องศาเซลเซียส ซึ่งความร้อนขนาดนี้ ไม่เป็นผลดี ที่อาจส่งผลต่อผู้ที่ต้องประกอบอาชีพอยู่กลางแจ้ง ผู้ใช้แรงงาน คนทำงานที่ต้องอยู่ในสถานที่ที่ปิดอับ จนก่อให้เกิดอันตรายและมีผลกระทบต่อสุขภาพของลูกจ้างที่ทำงานในสภาพการทำงานที่ร้อนได้ เช่น เป็นตะคริว เป็นลม อ่อนเพลีย ผดผื่น หรือเกิดโรคจิตประสาทเนื่องจากความร้อน หัวใจทำงานเกินขีดจำกัด นำไปสู่ภาวะหัวใจและอวัยวะภายในล้มเหลว จนถึงแก่ชีวิตได้
ทั้งนี้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มีความห่วงใยถึงลูกจ้างที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับความร้อนภายใต้สภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงในช่วงหน้าร้อน จึงขอความร่วมมือให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่าง และเสียง พ.ศ. 2559
โดยมีบทบัญญัติในการควบคุม ดูแลสำหรับลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวข้องกับความร้อน ซึ่งกฎกระทรวงดังกล่าว ออกภายใต้มาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ความปลอดภัยฯ พ.ศ. 2554 โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับเรื่องความร้อนไว้ อาทิ มีการกำหนดมาตรฐานระดับความร้อน กำหนดค่าเฉลี่ยอุณหภูมิ ของงานที่ลูกจ้างทำในลักษณะต่าง ๆ ไว้
และในกรณีที่สถานประกอบการมีแหล่งความร้อนที่อาจเป็นอันตราย กำหนดให้นายจ้างติดป้ายหรือประกาศเตือน เพื่อให้ลูกจ้างมองเห็นได้ชัดเจน และในกรณีที่สถานประกอบกิจการมีระดับความร้อนเกินมาตรฐาน ให้นายจ้างดำเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขสภาวะการทำงานด้านวิศวกรรม เพื่อควบคุมระดับความร้อนให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งหากนายจ้างปฏิบัติถูกต้องก็จะช่วยให้ลูกจ้างได้รับการดูแล คุ้มครองไม่ให้ประสบอันตรายและเกิดผลกระทบต่อสุขภาพทำงานร่วมกันได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องให้เกิดการบังคับใช้กฎหมาย และหากนายจ้างสามารถจัด สวัสดิการเพิ่มเติมที่เหมาะสมเพื่อช่วยผ่อนคลายความร้อนให้กับลูกจ้าง อาทิ เครื่องปรับอากาศ พัดลมระบายความร้อน ตู้กดน้ำเย็น หรือจัดเวลาพักให้ถี่ขึ้น ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการทำงานในที่อุณหภูมิสูงได้อีก
News Related-
สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน
-
สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก
-
ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4
-
อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา
-
'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ
-
TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น
-
“นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน
-
มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ
-
กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน
-
น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)
-
เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล
-
กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา
-
SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร
-
สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด