เฟดคงดอกเบี้ย 5.25%-5.50% ตามคาด ประกาศลดใช้มาตรการ QT มิ.ย. นี้
เฟดคงดอกเบี้ย 5.25%-5.50% ตามคาด ประกาศลดใช้มาตรการ QT มิ.ย. นี้
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สรุปออกมาว่า จะยังคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 5.25%-5.50% ตามการคาดการณ์ โดยชี้ว่ายังคงต้องต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงนี้
นี่เป็นการตัดสินใจไม่ลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 แล้วนับตั้งแต่ปี 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายและขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษ
จากการตัดสินใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แถลงการณ์ของเฟดหลังการประชุมระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจขณะนี้ “ยังขาดความคืบหน้าเพิ่มเติมในการลดอัตราเงินเฟ้อกลับไปสู่เป้าหมาย 2%”
และเสริมว่า “คณะกรรมการไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะลดอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวอย่างยั่งยืนไปที่ระดับ 2%”
คำแถลงยังกล่าวว่า ความเสี่ยงในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อและอัตราการจ้างงาน “ได้ก้าวไปสู่สมดุลที่ดีขึ้นในปีที่ผ่านมา” นอกจากนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจมีลักษณะเป็นก้าวที่มั่นคง ท่ามกลาง “อัตราการจ้างงานที่แข็งแกร่ง” และ “อัตราการว่างงานต่ำ”
ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป “เงินเฟ้อยังสูงเกินไป ความคืบหน้าเพิ่มเติมในการลดเงินเฟ้อลงมานั้นไม่แน่นอน และเส้นทางข้างหน้าก็ไม่แน่นอน”
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนพอใจกับความเห็นของพาวเวลล์ที่ว่า การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟด “ไม่น่าจะ” จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ค่าเฉลี่ยหุ้นในตลาดดาวโจนส์พุ่งขึ้นหลังคำพูดดังกล่าว และเพิ่มขึ้นมากถึง 500 จุด
กระนั้นแม้ไม่มีสัญญาณปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก แต่การปรับดอกเบี้ยลงที่หลายคนรอคอยก็ยังไม่เกิดขึ้นเช่นกัน และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับสูงนี้ต่อไปอีกนานกว่าที่ตลาดคาดหวัง
ทั้งนี้ คณะกรรมการกล่าวว่า ตั้งแต่เดือน มิ.ย. เป็นต้นไป คณะกรรมการจะชะลอการใช้มาตรการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยลดวงเงินพันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม
ภายใต้แผนใหม่นี้ เฟดจะลดเพดานการการไถ่ถอนพันธบัตรรายเดือนลงเหลือ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) จะไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
เฟดเริ่มใช้มาตรการ QT ในเดือน มิ.ย. 2022 โดยปล่อยให้พันธบัตรและ MBS วงเงินสูงถึง 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐครบอายุต่อเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม กระบวนการดังกล่าวส่งผลให้งบดุลของธนาคารกลางลดลงเหลือประมาณ 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 8.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงกลางปี 2022
ทั้งนี้ เฟดใช้อัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมกระแสของเงิน โดยมีจุดมุ่งหมายว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะกระทบต่ออุปสงค์และช่วยลดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงจับจ่ายใช้สอยต่อไป ทำให้เกิดหนี้เครดิตมากขึ้น และลดระดับการออมลง เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงกัดกร่อนการเงินของครัวเรือน
พาวเวลล์ได้กล่าวถึงผลกระทบร้ายแรงของภาวะเงินเฟ้อซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำ
เรียบเรียงจาก CNBC