เปิดใจ ทีมขนกากแคดเมียม เล่านาทีโซ่ขาด ซัดไม่ได้มาตรฐาน
เปิดใจ ทีมขนกากแคดเมียม เล่านาทีโซ่ขาด ซัดไม่ได้มาตรฐาน
จากกรณีการขนส่ง “กากแคดเมียม” จาก จังหวัดสมุทรสาคร และ กทม. ไปยัง จังหวัดตาก ก่อนที่จะเกิดปัญหาโซ่ขาด ขณะเตรียมนำกากแคดเมียมลงจากรถที่บรรทุกมา ไปยังรถขนส่งภายใน เพื่อนำไปจัดเก็บไว้ที่โกดังพักคอย ทำให้ต้องมีการสั่งระงับการขนย้ายไปก่อนนั้น
ผู้สื่อข่าว PPTV ได้พูดคุยกับทีมขนย้ายกากแคดเมียมที่อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมเปิดใจเล่าเหตุการณ์ให้ฟังด้วย
หนึ่งในทีมขนย้ายกากแคดเมียม ซึ่งมากับรถบรรทุกที่ขนกากแคดเมียมล็อตแรก ยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุ มีเพียงโซ่ที่ใช้ยกถุงบิ๊กแบ็กขาด ทำให้ถุงตกลงมาเท่านั้น แต่ตัวถุงบิ๊กแบ็กไม่ได้ขาดตามที่ข่าวหลายสำนักรายงาน และยืนยันว่า ขณะนั้นสังเกตการณ์อยู่บริเวณหน้ารถ เห็นจังหวะที่เกิดเหตุ คาดว่าน่าจะมาจากโซ่ไม่ได้มาตรฐาน และรับน้ำหนักเยอะเกินไป
ทีมขนย้ายรายนี้ ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีส่วนร่วมกับกระบวนการในการขนกากแคดเมียมขึ้นและลงรถ เพราะกระบวนการแพ็คกากแร่ รวมถึงขนขึ้นรถบรรทุก เป็นเจ้าหน้าที่ดำเนินการทั้งหมด หลังจากที่คลุมผ้าใบแล้ว ตนมีหน้าที่เพียงขับรถจากต้นทางมายังปลายทาง จ.ตาก เท่านั้น
โดยระหว่างการขนส่ง ก็มีเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการขนส่งตลอดเวลา ซึ่งเขาไม่มีสิทธิ์เปิดผ้าใบดู หรือแตะต้องอะไรกับกากแร่ที่อยู่ท้ายรถทั้งสิ้น รวมถึงกระบวนการขนกากแร่ลงจากรถ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้เขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวใด ๆ
ทีมขนย้ายรายนี้ ยังยืนยันอีกว่า พวกเขาไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับบริษัทที่เป็นเจ้าของกากแร่ แต่มาจากอีกบริษัทที่รับจ้างให้นำรถมาขนย้ายกากแร่ ซึ่งคนขับรถทุกคน รวมถึงรถทุกคัน มีใบอนุญาตขนส่งวัตถุอันตรายถูกต้อง จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา เวลาตนไปขนส่งวัตถุอันตราย ทุกครั้งจะต้องมีการทดสอบโซ่ หรืออุปกรณ์ที่จะใช้ยกของลงจากรถ
โดยทดสอบยกวัตถุที่ไม่อันตรายที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน ก่อนที่จะยกสารเคมีจริง แต่การขนกากแคดเมียมครั้งนี้ ตนมองว่า “ไม่มีมาตรฐาน”
ทีมขนย้าย เผยอีกว่า หลังเกิดเหตุโซ่ขาด ทำให้กระบวนการที่จะต้องขนกากแคดเมียมลงจากรถ ถูกระงับออกไป โดยทราบว่าจะเริ่มการขนย้ายต่อในวันที่ 3 พฤษภาคม ซึ่งระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดหาที่พักให้กับพวกตนที่ จ.ตาก ก่อน เพราะไม่สามารถนำรถที่ยังบรรทุกแคดเมียมอยู่ออกมาจากโกดังได้
โดยการขนย้ายที่ล่าช้าปกติจะต้องมีการจ่ายเงินชดเชย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยรายละเอียดใด ๆ