เชียงใหม่ ไม่ดีขึ้นเลย ยังจมฝุ่นเช้านี้อันดับ 2 โลก อีกแล้ว
เว็บไซต์รายงานคุณภาพอากาศโลก IQAir เช้าวันนี้ (27 เมษายน 2567) พบว่า เป็นอีกครั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ประเทศไทย ขึ้นเป็นอันดับ 2 ของเมืองใหญ่ที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก ณ เวลา 9.30 น. ตามดัชนี AQI US
สำหรับผลการจัดอันดับพบว่า เมืองใหญ่ที่มีมลพิษมากที่สุด อันดับ 1 คือ กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล 183 รองลงมาคือ เชียงใหม่ ประเทศไทย 161 และอันดับ 3 คือ ฮานอย ประเทศเวียดนาม 161
สำหรับอันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของไทย แบบเรียลไทม์(9.43 น.) มีผลดังนี้
- อ.สันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ดัชนีอยู่ที่ 168
- อ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ดัชนีอยู่ที่ 162
- อ.ดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ดัชนีอยู่ที่ 161
- อ.แม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ดัชนีอยู่ที่ 161
- อ.แม่เมาะ จังหวัดลำปาง ดัชนีอยู่ที่ 154
- อ.เมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ดัชนีอยู่ที่ 146
- อ.สามพราน จังหวัดนครปฐม ดัชนีอยู่ที่ 142
- อ.เมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ดัชนีอยู่ที่ 141
- อ.หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดัชนีอยู่ที่ 128
- อ.แม่สอด จังหวัดตาก ดัชนีอยู่ที่ 105
เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของไทย วันที่ 27 เม.ย. 67 เวลา 9.40 น.
สำหรับดัชนีคุณภาพอากาศตามมาตรฐานของ US AQI แบ่งเป็น 6 ระดับ
0-50 หมายถึง คุณภาพอากาศดี ประชาชนสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
51-100 หมายถึง คุณภาพอากาศปานกลาง ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ประชาชนในกลุ่มเสี่ยงควรลดการออกแรงหนักหรือเป็นเวลานาน และสังเกตอาการไอและเหนื่อยของตัวเอง
101-150 หมายถึง คุณภาพอากาศไม่ดีต่อกลุ่มเสี่ยง ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ประชาชนในกลุ่มเสี่ยงควรลดกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักหรือเป็นเวลานาน โดยอาจพักเป็นระยะๆ หมั่นสังเกตอาการไอ ล้า ใจสั่น และแน่นหน้าอกของตนเอง หากมีโรคประจำตัวให้ปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำ
151-200 หมายถึง คุณภาพอากาศไม่ดี ประชาชนทั่วไปควรลดกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงงานหนักหรือเป็นเวลานาน อาจพักเป็นระยะๆ ประชาชนในกลุ่มเสี่ยง ควรลดกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงงานหนักหรือเป็นเวลานาน ให้พักหรือทำงานในอาคาร
201-300 หมายถึง คุณภาพอากาศไม่ดีอย่างยิ่ง ประชาชนทั่วไปควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักหรือเป็นเวลานาน หรือทำกิจกรรมในอาคารแทน
ประชาชนในกลุ่มเสี่ยง ควรงดกิจกรรมนอกอาคารทุกชนิด ทำกิจกรรมในอาคารแทน
301-500 หมายถึง คุณภาพอากาศอันตราย ประชาชนทั่วไป ควรงดกิจกรรมนอกอาคารทุกชนิด
ประชาชนในกลุ่มเสี่ยง ควรพักในอาคารเท่านั้น ทำกิจกรรมที่ไม่ออกแรงมาก
ที่มา IQAir , สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)