สวนทุเรียนครบุรีรับมืออากาศร้อน ปรับแผนการให้น้ำทั้งวัน ป้องกันลูกร่วงหล่น
ชาวสวนทุเรียนที่ อ.ครบุรี กว่า 2 พันไร่ ปรับตัวสู้อากาศร้อนกว่า 40 องศาฯ ที่โคราช โดยปรับการให้น้ำทั้งวันป้องกันปัญหาลูกทุเรียนร่วงหล่น โดยจะให้น้ำทุกวันครั้งละ 30 นาทีช่วงแดดไม่แรงจัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ตระเวนลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้คำแนะนำแก่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในพื้นที่ ให้การดูแลทุเรียน ในช่วงที่สภาพอากาศกำลังร้อนและแล้งจัดยาวนาน โดยเบื้องต้นพบว่าทุเรียนของเกษตรกรในพื้นที่ที่มีอยู่กว่า 2,000 ไร่ ตอนนี้กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพอากาศที่ร้อนจัดอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส มานานหลายสัปดาห์ ทำให้ลูกทุเรียนต้องร่วงหล่นเสียหายไปแล้วกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังกำลังเกิดปัญหาเพลี้ยและแมลงศัตรูของทุเรียนบุกเข้าทำลายต้นทุเรียนเสียหายอีกส่วนหนึ่ง เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัดนี้เหมาะสมทำให้เพลี้ยจำพวกเพลี้ยจักจั่นเติบโตและขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว จึงแนะนำให้เกษตรกรควรหมั่นดูแลและกำจัดแมลงพวกนี้เป็นประจำก่อนที่จะเกิดความเสียหายจนทำให้ทุเรียนยืนต้นตาย
นายสังคม ล้อมกระโทก อายุ 59 ปี เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนบ้านหนองมะค่า ต.แชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งปลูกทุเรียนเอาไว้รวม 3 ไร่ จำนวนกว่า 100 ต้น บอกว่า ในพื้นที่อำเภอครบุรีตอนนี้อากาศร้อนจัดและมีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสมานานหลายสัปดาห์แล้ว ส่งผลทำให้ทุเรียนที่กำลังติดลูกร่วงหลุดไปเกือบครึ่ง เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดทำให้โคนต้นทุเรียนนั้นและแห้งเร็ว จึงต้องแก้ไขปัญหาด้วยการเพิ่มระยะเวลาการให้น้ำทุเรียนให้มากขึ้น ซึ่งปกติจะให้น้ำทุเรียนแบบวันเว้นวัน วันละประมาณ 20 นาที
เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนบ้านหนองมะค่า กล่าวต่อว่า แต่ตอนนี้ต้องให้น้ำทุกวัน เพิ่มระยะเวลาการให้น้ำเป็นอย่างน้อยรอบละ 30 นาที โดยจะเน้นให้น้ำในช่วงที่แดดไม่แรงจัดเพื่อให้ต้นทุเรียนมีความชุ่มชื้นมากขึ้น หากวันนี้แดดร้อนจัดอากาศแห้งมากว่าปกติ ก็ต้องเพิ่มระยะเวลาไปอีกตามความเหมาะสม ขณะเดียวกันจากเดิมที่ต้องตัดหญ้าที่อยู่บริเวณโคนต้นเป็นประจำ ตอนนี้ต้องปล่อยเอาไว้เพื่อให้หญ้าควบคุมความชุ่มชื้นบริเวณผืนดินรอบโคนต้นให้มากที่สุด เพื่อให้น้ำที่รดทุเรียนไปคงอยู่สร้างความชุ่มชื่นให้กับโคนทุเรียนให้นานที่สุดเช่นเดียวกัน
นายสังคม กล่าวอีกว่า นอกจากอากาศที่ร้อนและแล้งจัดช่วงนี้ นอกจากจะต้องประสบปัญหาทุเรียนขาดน้ำจนทำให้ผลผลิตร่วงหล่นแล้ว ตอนนี้แมลงศัตรูทุเรียนอย่างเพลี้ยจักจั่น ยังเริ่มระบาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งเพลี้ยจักจั่นนี้ถือเป็นศัตรูที่ร้ายแรงต่อทุเรียนอย่างมาก เนื่องจากเป็นแมลงปากดูที่คอยดูดกินน้ำเลี้ยงของต้นทุเรียนโดยมีน้ำลายที่สารพิษรุนแรงเพื่อย่อยผนังเซลล์พืชให้บางลง จนทำให้ทุเรียนเกิดอาการใบใหม่และร่วงหล่น และยิ่งทำให้การสังเคราะห์แสงทำได้ยากจนอาจทำให้ทุเรียนตายได้ในที่สุด จึงจำเป็นที่จะต้องคอยหมั่นตรวจสอบและกำจัดอยู่เป็นประจำห้ามเผลอปล่อยทิ้งเด็ดขาด
ทั้งนี้ จากรายงานล่าสุดของสำนักงานเกษตรอำเภอครบุรี พบว่าพื้นที่อำเภอครบุรี ถือเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกทุเรียนมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัด มีพื้นที่การเพาะปลูกทุเรียนไปแล้วกว่า 3,000 ไร่ เกษตรกรผู้เพาะปลูกประมาณ 322 ราย ตอนนี้มีทุเรียนที่พร้อมให้ผลผลิตแล้วกว่า 2,000 ไร่ ให้ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 550 กิโลกรัม สร้างเม็ดเงินเข้าพื้นที่ปีละกว่า 100 ล้านบาท แต่ด้วยสถานการณ์ที่ร้อนและแล้งจัดในปีนี้คาดว่าผลผลิตทุเรียนจะลดลงไม่น้อยกว่า 40% ซึ่งอาจจะทำให้เม็ดเงินที่ควรจะได้จากการจำหน่ายทุเรียนปีนี้หายไปเกือบ 50 ล้านบาทเลยทีเดียว.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สวนทุเรียนครบุรีรับมืออากาศร้อน ปรับแผนการให้น้ำทั้งวัน ป้องกันลูกร่วงหล่น
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
– Website : www.thairath.co.th
– LINE Official : Thairath