‘วิลม์ ไวน์อัลซาส’ ‘ไวน์ขาว’ แช่เย็น สดชื่น เหมาะกับอาหารไทย

วิลม์ ไวน์อัลซาส (Willm) ผลิตไวน์ขาวจากองุ่นหลายสายพันธุ์ มีทั้ง AOC ธรรมดา, อัลซาส กรองด์ ครู (Alsace Grand Cru), ไวน์หวาน (Late Harvest), สปาร์คกลิ้งชื่อดังของอัลซาส เครมองต์ ดัลซาส (Crémant d’Alsace) และฟรุตบรั่นดี

ก่อตั้งเมื่อปี 1896 ที่เมืองบาร์ (Barr) ทางใต้ของสตราส์บูร์จ ก่อนที่จะมีชื่อเสียงด้านไวน์นั้น เคยประสบความสำเร็จจากการขายหอยมาก่อนคือ หอยทาก อัลซาเชียน (Escargots à l’Alsacienne) เป็นหอยทากในน้ำซุปไวน์ขาว ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิมของครอบครัว Willm ก่อนที่อาดอลเฟอ วิมม์ (Adolphe Willm) หนึ่งในทายาทหันมาเน้นการผลิตไวน์มากขึ้น

ชาวอัลซาส หรือ อัลซาเชียน พูดภาษาเยอรมันได้เป็นส่วนใหญ่ เดิมอัลซาสเป็นดินแดนของเยอรมนี ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นกรองเดสต์ (Grand Est) เมืองหลักคือสตราส์บูร์จ (Strasbourg)

ผลิตไวน์ขาวจากองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ ที่ปกติไม่สามารถปลูกในดินแดนดั้งเดิมของฝรั่งเศสได้ดี ไม่เช่นนั้นก็คงจะมีเพียง ชาร์โดเนย์ (Chardonnay) กับโซวีญยอง บลอง (Sauvignon Blanc) เป็นส่วนใหญ่

  ที่ตั้งของวิลม์

อัลซาสมีพื้นที่ปลูกองุ่น 15,298 เฮกตาร์ มี 119 หมู่บ้าน ผลผลิตไวน์ปีละประมาณ 111.3 ล้านลิตร และไวน์ที่ผลิตได้ 90% เป็นไวน์ขาว โดย 78% เป็นพื้นที่เอโอซี อัลซาส (AOC Alsace) มีเพียง 4% เท่านั้นที่เป็นเอโอซี อัลซาส กรองด์ ครู ( AOC Alsace Grand Cru) และ 18% เป็นของไวน์ฟอง เอโอซี เครมองต์ ดัลซาส ( AOC Crémant d’Alsace) ผลผลิตไวน์อัลซาสทั้งหมดส่งออกไปต่างประเทศเพียง 25%

 รีสลิ่ง King of Alsace

พันธุ์องุ่นที่ชาวอัลซาเชียนปลูกเพื่อทำไวน์ ส่วนใหญ่มาจากเยอรมนี และปัจจุบันปลูกคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ดังนี้

รีสลิ่ง (Riesling ) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น King of Alsace 21.7%

เกวืร์ซทรามิเนอร์ (Gewürztraminer) 18.6%

ปิโนต์ กรีส์ (Pinot Gris) 15.2%

โอแซร์ฮรัวส์ บลอง (Auxerrois Blanc) 14.2%

ปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) 9.6%

ซิลวาแนร์ (Sylvaner) 8.9%

ปิโนต์ บลอง (Pinot Blanc) 7%

  องุ่นเกวืร์ซทรามิเนอร์

มุสกาต์ (Muscat) 2.3%

ชาเซลัส (Chaselas) 0.6%

และพันธุ์อื่น ๆ เช่น ชาร์โดเนย์ และซาวาแญง บลอง (Savagnin Blanc) 1.3% เป็นต้น รวมพื้นที่ทั้งหมด 15,535 เฮกแตร์ ผลิตไวน์โดยใช้ระบบสหกรณ์เป็นส่วนใหญ่

อัลซาสยังสามารถผลิตฟรุตบรั่นดี (Fruit Brandy) เช่น มิราเบลล์ (Mirabelle) ทำจากพลัมสีเหลืองทอง และยังทำสปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) ที่เรียกว่า เครมองต์ ดัลซาส (Crémant d’Alsace) ได้ดีอีกด้วย

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ถูกส่งต่อมาจากเยอรมนีคือ ทรงขวดเรียวสูงที่เรียกว่าทรงฟลุต (Flûtes) เหมือนไวน์เยอรมนี ซึ่งในอัลซาสเรียกว่า ฟรุตส์ ดัลซาส (Flûtes d’Alsace)

ขวดทรงฟลุต อันเป็นเอกลักษณ์ของไวน์อัลซาส

ในอัลซาสมีถนนสายไวน์เรียกว่า ฮรูต์ เดส์ แวงส์ ดัลซาส (Route des Vins d’Alsace) หรือ Wine Route of Alsace ท่านที่ไปอัลซาสใช้ถนนสายนี้รับรองว่าเพลิดเพลินเจริญอุราแน่นอน ความยาวประมาณ 170 กม. ทอดจากเหนือถึงใต้ผ่าน 67 คอมมูนที่ทำไวน์ ผมไปอัลซาสครั้งแรกก็ใช้เส้นทางนี้ พอไปหลายครั้งเข้าก็เลือกได้ว่าจะไปไร่ไหน

ไวน์อัลซาส เข้ามาเมืองไทยกว่า 25 ปีแล้ว ผลัดเปลี่ยนผู้นำเข้ามาหลายราย ปัจจุบันบริษัท แอมโบรส ไวน์ แอนด์ สปิริต จำกัด (Ambrose Wine & Spirit) แนะนำ วิลม์ ไวน์อัลซาส ในงานไวน์ดินเนอร์ที่ร้าน No Where Bangkok ประกอบด้วย 4 รุ่น เป็นขาว 3 แดง 1 ดังนี้

 เกวืร์ซทรามิเนอร์ รีเสิร์ฟ 2020

1 วิลม์ อัลซาส เอโอซี เกวืร์ซทรามิเนอร์ รีเสิร์ฟ 2020 (Willm Alsace AOC Gewurztraminer  Reserve 2020) : เกวืร์ซทรามิเนอร์ เป็นองุ่นที่ปลูก 18.6% ในอัลซาสมากเป็นอันดับ 2 รองจากรีสลิ่ง ทำจากเกวืร์ซทรามิเนอร์ 100% เก็บด้วยมือและค่อย ๆ บีบน้ำ แล้วหมักในถังสแตนเลส 4-6 เดือน จากนั้นบ่มพร้อมยีสต์ 2-3 เดือน

สีเหลืองทอง สดใส หอมกลิ่นผลไม้ แพสชั่นฟรุต สับปะรด ลิ้นจี่ มะม่วง มิเนอรัล ดอกกุหลาบ สไปซี เฮิร์บ เปปเปอร์ อบเชย ยีสต์กรุ่น ๆ แอสิดสดชื่น จบด้วยผลไม้ และสไปซี่ หน้าร้อนอย่างนี้แช่เย็นสัก 11-12 องศา เหมาะกับอาหารไทยหลายอย่าง เช่น ยำส้มโอ ปลาสามรส ฯลฯ และเข้ากับอาหารจีน ญี่ปุ่น และอินเดียบางอย่างซึ่งมีผักและผลไม้เป็นส่วนผสมของเครื่องปรุง

 รีสลิ่ง รีเสิร์ฟ 2021

2 วิลม์ อัลซาส เอโอซี รีสลิ่ง รีเสิร์ฟ 2021 (Willm Alsace AOC Riesling Reserve 2021) : ทำจากรีสลิ่ง 100% เก็บด้วยมือและค่อย ๆ บีบน้ำ แล้วหมักในถังสแตนเลส 4-6 สัปดาห์ จากนั้นบ่มพร้อมยีสต์ 2-3 เดือน ก่อนจะชิมขอให้ท่านลืมรีสลิ่งเยอรมนีไปก่อน จากการที่แตร์ฮรัวร์ หรือดินฟ้าอากาศต่างกัน ทำให้รสชาติต่างกัน

สีเหลืองทอง สดใส หอมกลิ่นผลไม้ ซีทรัส เสาวรส ส้มจีน มะขามป้อม กูสเบอร์รี เปลือกเลมอน มิเนอรัล ยีสต์กรุ่น ๆ แอสิดสดชื่น จบด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี่ มะขามป้อมชุ่มคอ เหมาะกับอาหารไทย ประเภทปลา หอย กุ้ง ย่าง และมีน้ำจิ้มหวานนิด ๆ สลัดผักที่น้ำสลัดซีฟู้ด และส้มตำไทย (ไม่ใส่ปลาร้า) อาหารญี่ปุ่นพวกซูชิ เป็นต้น

   รีสลิ่ง รีเสิร์ฟ แวง บิโอโลจิก 2021

3 วิลม์ อัลซาส เอโอซี รีสลิ่ง รีเสิร์ฟ “แวง บิโอโลจิก” 2021 (Willm Alsace AOC Riesling Reserve Vin Biologique 2021) : เหมือนกับรีสลิ่งตัวที่แล้ว เพียงแต่รุ่นนี้เป็นออร์แกนิค ทำจากองุ่นออร์แกนิค ไม่ใช้สารเคมีในการผลิต ซึ่งไวน์ประเภทนี้ว่ากันว่า ใครชอบก็ชอบเลย ถ้าไม่ชอบก็จะไม่ชอบไปเลย เป็นตัวเลือกสำหรับกลุ่มรักษ์โลก และไม่ต้องการสารเคมี

  ปิโนต์ นัวร์ รีเสิร์ฟ 2021

วิลม์ อัลซาส เอโอซี ปิโนต์ นัวร์ รีเสิร์ฟ 2021 (Willm Alsace AOC Riesling Reserve 2021) : ทำจากปิโนต์ นัวร์ 100% เก็บด้วยมือและค่อย ๆ บีบคั้นน้ำ หมัก 36 ชั่วโมง จากนั้นนำไปแช่พร้อมเปลือกอีก 10-15 วัน บ่มในถังสแตนเลสล้วน ๆ ไม่บ่มโอ๊ค ที่สำคัญเป็นปิโนต์ นัวร์อากาศเย็น เพราะฉะนั้นอย่าไปเทียบกับของเบอร์กันดี หรือภูมิภาคอื่นของโลก ถ้ามีส่วนใกล้เคียงน่าจะเป็นสแป๊ตเบอร์กุนเดอร์ (Spätburgunder) ของเยอรมนีหรือออสเตรีย ซึ่งเป็นปิโนต์ นัวร์เวอร์ชั่นเย็น

สีแดงออกไปทางโรเซ่เข้ม ๆ หอมกลิ่นผลไม้ เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี เรดเคอร์แรนต์ มะเฟือง แครนเบอร์รี มิเนอรัล สไปซี เฮิร์บ ใบไม้แช่น้ำ แอสิดสดชื่น แทนนินนุ่มหวาน จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซีเฮิร์บ อาจจะยังไม่พร้อมดื่มเต็มที่นัก น่าจะปีหน้าเป็นต้นไป เหมาะกับอาหารไทยประเภทไก่ เป็ด นกพิราบ ปิ้งย่าง และมีซอสหหวานนิด ๆ หรือหมูหัน หมูกรอบ กวาง เป็ดปักกิ่ง ฯลฯ ที่มีซอสซีอิ๊วหวานนิด ๆ

ที่สำคัญอัตราภาษีใหม่นี้ทำให้ ไวน์วิลม์ อัลซาส น่าจับต้องมาก อากาศร้อนแบบนี้แช่เย็น ดื่มเล่น ๆ หรือดื่มกับอาหารไทยเหมาะนักเชียว สอบถามที่ผู้นำเข้า โทร.02 719 8206-11