พายุฤดูร้อนถล่มครบุรี พัดสวนทุเรียนเสียหายกว่า 10 ราย ลูกร่วงจากต้นนับ 10 ตัน
พายุฤดูร้อนถล่มสวนทุเรียนของเกษตรกรนับสิบรายที่ ต.ลำเพียก อ.ครบุรี ทำให้ทุเรียนรอเก็บ ร่วงจากต้นนับ 10 ตัน ชาวสวนน้ำตาตกใน เงินล้านหายวับไปกับตา ด้านอำเภอเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
กรณีเมื่อบ่าย 5 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม บ้านป้ายอุบล ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นานเกือบ 1 ชั่วโมง เป็นเหตุให้มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายนับสิบหลังคาเรือน ต้นไม้หักโค่น และพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเสียหายเป็นจำนวนมาก ต่อมา นายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี จึงสั่งการให้ นายขจรศักดิ์ ญวณกระโทก ปลัดอำเภอครบุรี ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายร่วมกับ นายอุทัย หนูวุ่น เกษตรอำเภอครบุรี และนายไสว สายปัญญา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลำเพียก เพื่อหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือราษฎรเป็นการเร่งด่วน
ความคืบหน้าเรื่องนี้ จากการสำรวจในเบื้องต้นพบมีบ้านเรือนประชาชนถูกลมพัดหลังคาปลิวได้รับความเสียหายเล็กน้อยกว่า 10 หลังคาเรือน ต้นไม้ใหญ่หักโค่นนับ 10 ต้น แต่ที่เสียหายอย่างหนักก็ คือ สวนทุเรียนของเกษตรกรที่ปลูกไว้ และกำลังให้ผลผลิตรอการเก็บเกี่ยว ถูกลมพายุพัดหักโค่นทั้งต้น กิ่ง และลูกทุเรียนร่วงหล่นเสียหายเกือบ 10 เจ้า
โดยเฉพาะที่ สวนทุเรียนลุงใส ของนายจันทร์ใส แสวงวงค์ อายุ 68 ปี ซึ่งปลูกทุเรียนเอาไว้บนเนื้อที่ 7 ไร่ จำนวนกว่า 200 ต้น ถูกลมพายุพัดโค่นต้นทุเรียนที่กำลังออกลูกเต็มต้นล้มเสียหาย 3 ต้น และมีลูกทุเรียนที่เตรียมจะได้เก็บเกี่ยวในเดือนหน้าร่วงหล่นไปอีกว่า 500 ลูก สร้างความสะเทือนใจให้กับครอบครัวจนแทบจะเป็นลม นอกจากนี้ยังมีสวนทุเรียนของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลลำเพียกเสียหายอีกจำนวนมาก
พายุฤดูร้อนถล่มครบุรี พัดสวนทุเรียนเสียหายกว่า 10 ราย ลูกร่วงจากต้นนับ 10 ตัน
นายจันทร์ใส และนางสุวรรณี แสวงวงค์ สองสามีภรรยาเจ้าของสวนทุเรียนลุงใส กล่าวว่า ทุเรียนสวนนี้ปลูกเอาไว้มานานกว่า 7 ปีแล้ว ให้ผลผลิตรอบนี้เป็นรอบที่ 3 ก่อนหน้านี้สร้างรายได้ให้กับครอบครัวมาปีละกว่า 1 ล้านบาท มาปีนี้ผลผลิตดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนๆ ตั้งความหวังเอาไว้ว่าน่าจะมีเงินที่ได้จากการขายทุเรียนซึ่งประเมินเอาไว้ก่อนหน้านี้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท จึงลงทุนให้น้ำ ปุ๋ย และยา หมดไปกว่า 4 แสนบาท แต่มาวันนี้ถูกลมพายุพัดกระหน่ำประมาณ 1 ชั่วโมง เงินหลายแสนที่คาดว่าจะได้หายวับไปกับตา สร้างความเสียใจให้กับทั้งครอบครัวเป็นอย่างมาก แม้จะรู้ดีว่าเรื่องภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ แต่ก็ยังไม่วายที่จะรู้สึกเสียใจและเสียดายผลผลิตที่คอยดูแลฟูมฟักมาอย่างดี จนเกือบที่จะได้เก็บเกี่ยวในเวลาอีกเพียงไม่ถึงเดือน
เบื้องต้นทางองค์การบริหารส่วนตำบลลำเพียกคาดการณ์ว่า พายุฤดูร้อนลูกนี้ซึ่งเป็นลูกแรกของอำเภอครบุรี น่าจะพัดลูกทุเรียนร่วงหล่นเสียหายไปไม่น้อยกว่า 3,000 ลูก ประเมินมูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท และยังมีต้นทุเรียนถูกลมพายุโค่นเสียหายอีกหลายสิบต้น ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายที่ชัดเจนเพื่อรายงานไปยังทางอำเภอและจังหวัด เพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายตามขั้นตอนและระเบียบของทางราชการเป็นการเร่งด่วนแล้ว.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พายุฤดูร้อนถล่มครบุรี พัดสวนทุเรียนเสียหายกว่า 10 ราย ลูกร่วงจากต้นนับ 10 ตัน
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
– Website : www.thairath.co.th
– LINE Official : Thairath