‘ณัฐพล’ ป้ายยา ร่าย 92 ปีคณะราษฎร อยากมีอำนาจต้องเข้าหา… ชวนค้นตู้ปู่ หา ‘เหรียญพิทักษ์ รธน.’

‘ณัฐพล’ ป้ายยา-ร่ายยาว 92 ปี ‘คณะราษฎร’ ชี้จำกัดอำนาจไว้ให้ แต่ทำไมไทยถอยหลัง ยันโฟกัสเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่พลิกการเมือง-ชวนค้นตู้พระปู่ย่า หา ‘เหรียญพิทักษ์ รธน.’

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-7 สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) พร้อมด้วยพันธมิตรสำนักพิมพ์ ร่วมจัดงาน ‘สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 22’ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม-8 เมษายนนี้

บรรยากาศเวลา 17.00 น. ที่บูธสำนักพิมพ์มติชน J47 มีนักอ่านแวะเวียนเข้ามาเลือกซื้อหนังสืออย่างไม่ขาดสาย โดยให้ความสนใจกับหนังสือแนวประวัติศาสตร์ การเมืองและศิลปวัฒนธรรม เป็นพิเศษ โดยมีโปรโมชั่นจัดเต็มส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 20% ไปจนถึงของพรีเมียม หากช้อปหนังสือชุด หรือครบตามยอดที่กำหนด

เวลา 18.00 น. ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฏสวนสุนันทา มาร่วมเวที Book Talk “จุดเปลี่ยนประเทศไทย”

โดยกล่าวถึงจุดเปลี่ยนของการเมืองไทยในประวัติศาสตร์ว่า อยู่ตรงช่วงเวลาใด เพราะเหตุใด ประเทศไทยถึงดำเนินมาถึงจุดนี้ ซึ่งให้น้ำหนักไปที่เรื่องของการอภิวัฒน์สยาม 2475 ซึ่ง ผศ.ดร.ณัฐพลเป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่ม อาทิ ราษฎรปฏิวัติ, กบฏบวรเดช, ตามรอยอาทิตย์อุทัย นอกจากนี้ ยังมีผลงานร่วมเขียน อาทิ อยากลืมกลับจำ และอีก 2 เล่ม ของสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน คือ ‘ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ’, ‘ขุนศึก ศักดินา พญาอินทรีย์’ ที่นำมาวางจำหน่ายในบูธสำนักพิมพ์มติชนด้วย

‘ณัฐพล’ ป้ายยา ร่าย 92 ปีคณะราษฎร อยากมีอำนาจต้องเข้าหา… ชวนค้นตู้ปู่ หา ‘เหรียญพิทักษ์ รธน.’

ภาพประกอบข่าว

เมื่อถามถึงจุดเปลี่ยนของประเทศไทย 2475 ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญทางการเมือง จากวันนั้นจะถึงวันนี้พัฒนาการประชาธิปไตยไทย เป็นอย่างไรบ้าง และสนใจในประเด็นนี้เพราะอะไร ?

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวว่า ที่ตนสนใจเรื่อง 2475 ก็คิดว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสมัยใหม่ แต่จากที่เรียนในหลักสูตร มีไม่กี่บรรทัด ไม่ค่อยถูกพูดถึง จึงเกิดการตั้งคำถามถึงบทบาทของประชาชน

ในตอนหนึ่ง ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวถึงหนังสือ ‘กบฏบวรเดช’ ว่า เป็นเรื่องราวเมื่อชนชั้นนำ กลับตัวไม่ได้หลังจากสูญเสียสถานะทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองไป ซึ่งถ้าคิดอย่างใจเป็นธรรม ถ้าเราเป็นกลุ่มชนชั้นนำก็คงทำใจไม่ได้เช่นกัน เพราะเสียอำนาจอย่างมาก และก็เป็นเรื่องปกติที่การต่อต้านจะเกิดขึ้น ซึ่งโดยทั่วไป การปฏิวัติ 2475 ตามประวัติศาสตร์กระแสหลัก คือเป็นไปอย่างราบรื่น มองว่าชนชั้นนำเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว แต่ความจริงแล้วไม่ได้ราบรื่น ถูกต่อต้านจากหลายกลุ่มอย่างมาก

“ที่ถือว่าเป็นจุดไฮไลต์ของหนังสือเล่มนี้ คือบทบาทของสามัญชนคนหนุ่มสาว ในการต่อต้าน ‘กบฏบวรเดช’ มีคนหนุ่มสาวและประชาชนมากมาย ที่ให้ความช่วยเหลือคณะราษฎรในการปราบปรามกบฏบวรเดชทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน พ่อค้า ประชาชน ลูกเสือ หรือนักเรียนหญิงที่มาช่วยทำกับข้าว ส่วนลูกเสือ ก็ช่วยอำนวยการ ขนอาวุธในการปราบกบฏบวรเดช

ดังนั้น คำอธิบายเก่าที่ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องและไม่สนับสนุนการปฏิวัติ 2475 แต่เราจะเห็นได้ว่าหลังจากการปฏิวัติเพียง 1 ปี ประชาชนหวงแหนประชาธิปไตยอย่างมากจนกระทั่งปราบปรามกบฏบวรเดชได้สำเร็จ” ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าว

ก่อนนำเหรียญเชิดชูเกียรติที่มอบให้สามัญชนที่ร่วมปราบกบฏบวชเดช หรือพิทักษ์รัฐธรรมนูญมายื่นให้ชม

‘ณัฐพล’ ป้ายยา ร่าย 92 ปีคณะราษฎร อยากมีอำนาจต้องเข้าหา… ชวนค้นตู้ปู่ หา ‘เหรียญพิทักษ์ รธน.’

ภาพประกอบข่าว

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวต่อว่า ถ้าเป็นนักเรียนหญิง หรือประชาชนชาย รัฐบาลจะแจก ‘เข็มกลัดรัฐธรรมนูญ’ เขียนว่า “สละชีพเพื่อชาติ’ ถ้าเราไปดูจากคนรุ่นก่อน นักเรียน หรือลูกเสือจะติดเข็มนี้ ส่วนข้าราชการหรือลูกเสือที่ทำงานดีเด่นจะได้รับเหรียญตรา หรือ ‘เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ’ หรือเหรียญปราบกบฏบวรเดช มีไซซ์ผู้ชายและไซส์ผู้หญิง

“ถ้าย้อนกลับไปเราจะเห็นภาพเหล่านี้ หรือเราลองไปค้นหิ้งพระ ตู้เก่าๆ ของปู่ย่าตายาย ถ้าเราพบ เราจะร่วมภูมิใจไปกับปู่ย่าตายายได้เลยว่า พวกเขาเข้าร่วมในการพิทักษ์ประชาธิปไตยในครั้งนั้น แจกเป็น 1-2 หมื่นเหรียญ เยอะมาก หาซื้อได้จากตลาดของเก่า เชื่อว่าตามบ้านหลายคนยังคงมีอยู่ ถ้าพวกเราเจอก็ขอให้ภูมิใจ ซึ่งความกล้าหาญของเขาก็ไม่แตกต่างจากเยาวชนรุ่นใหม่ในสมัยนี้ ในการปกป้องประชาธิปไตย” ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าว

เมื่อถามต่อว่า หลังจากเกิดกบฏบวรเดช ดูเหมือนการเมืองจะเริ่มเข้าที่เข้าทาง รัฐบาลพระยาพหล พลพยุหเสนา ก็เริ่มเซ็ตระบบและเริ่มมีนโยบายที่เป็นมรดก และโดดเด่นอย่างมาก รวมไปถึงแง่มุมถกเถียงทางสังคมมากมาย อาทิ เรื่องการสร้างชาติ ซึ่งญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทด้วย ?

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวถึงหนังสือ ‘ตามรอยอาทิตย์อุทัย’ ว่า หนังสือเล่มนี้พูดถึงเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจไทยช่วงหลังการปฏิวัติ 2475 เวลาเราเรียนประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ จะมีช่วงใหญ่คือ ร.4 5 6 และ 7 ที่เดินทางไปตะวันตก แล้วเราก็กระโดดมาที่ช่วง จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่เดินตามตะวันตกตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ จนคณะราษฎรถูกมองว่าปฏิวัติทางการเมืองอย่างเดียว ซึ่งไม่ใช่

ในช่วงเวลาหนึ่ง คณะราษฎรพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมาก โดยใช้โมเดลญี่ปุ่น เพราะต้องการเปลี่ยนแปลง จากระบอบเดิมที่เดินตามตะวันตก ซึ่งอ่อนอ่อน ไม่ค่อยหืออือเท่าไหร่ เขาเดินอย่างไรเราเดินตามนั้น

“แต่คณะราษฎรได้เห็นแล้วว่าฝรั่งรังแกเรา ในขณะเดียวกันมีมหาอำนาจปรากฏตัวขึ้นคือ ‘ญี่ปุ่น’ ที่พัฒนาอาวุธ กองทัพ เศรษฐกิจสังคมได้อย่างรวดเร็ว และสามารถรบชนะได้ในสงครามรัสเซีย เป็นชาติแรกที่เอาชนะคนขาวได้ ซึ่งสร้างความภูมิใจให้คนเอเชียอย่างมาก

“ครั้งหนึ่งเคยไม่เจริญ แต่พัฒนาตัวเองสู้กับตะวันตก เราเลือกส่วนที่เราเลียนได้ คือสังคมเกษตรกรรม ปกครองด้วยพุทธศาสนาอย่างเรา สามารถอะแดป มาเป็นต้นแบบได้ คณะราษฎรจึงมองไปที่ญี่ปุ่น ประกอบกับญี่ปุ่นไม่เคยรังแกเรา” ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าว

‘ณัฐพล’ ป้ายยา ร่าย 92 ปีคณะราษฎร อยากมีอำนาจต้องเข้าหา… ชวนค้นตู้ปู่ หา ‘เหรียญพิทักษ์ รธน.’

ภาพประกอบข่าว

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวอีกว่า ญี่ปุ่นต้องการจะเข้ามาแทนที่อังกฤษและฝรั่งเศสจึงพยายามทำดีกับเรา ในขณะที่เราวิ่งหนีจากตะวันตก ก็มาเจอญี่ปุ่นพอดี จึงเกิดความสัมพันธ์กัน ซึ่งญี่ปุ่นสนับสนุนการปฏิวัติ 2475 เพราะต้องการจะเข้าแทนที่ชาวตะวันตก ฉะนั้นผลประโยชน์ของเรากับญี่ปุ่นค่อนข้างตรงกัน เราจึงเลือกโมเดลแบบญี่ปุ่น เพราะมันเป็นไปได้ ญี่ปุ่นเคยกระโดด และทำสำเร็จมาแล้ว

“ผมคิดว่าคณะราษฎรเป็นผู้ปกครองชุดแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่สัญญากับประชาชน ก่อนหน้านี้การปกครองระบอบเดิม ไม่ต้องสัญญาว่าจะทำอะไร เพราะไม่จำเป็น ขณะที่ราษฎรประกาศหลัก 6 ประการ เป็นคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ถ้าพูดในภาษาปัจจุบันคือ แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ คำสัญญาที่รัฐบาลจะทำให้กับประชาชน เลือกแนวทางพัฒนาขึ้นมาใหม่เรียกว่าการ ‘สร้างชาติ’ เพราะคณะราษฎรและประชาชนจำนวนหนึ่ง เห็นว่าชาติเสื่อมโทรม” ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าว

ผศ.ดร.ณัฐพลระบุว่า ‘ชาติ’ ที่แปลว่าประชาชนเป็นความหมายใหม่ที่เกิดขึ้น เมื่อระบอบเปลี่ยน ประชาชนขึ้นมามีสถานะสำคัญเท่าชาติ จึงมีการสร้างระบบราชการ สร้างกระทรวง ทบวง กรม สร้างการศึกษาระบบสาธารณสุข สร้างกรมสามัญศึกษา กรมอาชีวศึกษา กรมศิลปากร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ปี 2477, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศิลปากร และมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ (มหิดล) ในปี 2486

นอกจากนี้ ยังสร้างหน่วยงานที่ส่งเสริมเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้า รวมถึงการเกษตร เช่น กรมการค้าต่างประเทศ, กรมการค้าภายใน , กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รวมถึงกรมโรงงานอุตสาหกรรม อีกด้วย

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เขายังบอกว่าระบอบเก่าลอดทอนความสามารถของคนไทย ให้ไปนิยมสินค้าต่างประเทศ จึงมองว่าเราควรมีนโยบาย ‘ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ’ เลิกเน้นเป็นข้าราชการ ให้มีความมั่นใจในการประกอบการค้า เพื่อทดแทนฝรั่ง หรือคนจีน รู้จักการผลิตสินค้า และสร้างหน่วยงานที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมเหล่านี้ขึ้น

“พูดง่ายๆ คือให้นิยมไทยมากขึ้น เป็นการส่งเสริมการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า ไม่ว่าจะเสื้อผ้า เบียร์ เหล้า เรานำเข้ามาทั้งหมดจนกระทั่งเสียงดุลการค้า นี่คือนโยบายของคณะราษฎรในสมัยนั้น”

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวอีกว่า ดังนั้น หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจในสมัยคณะราษฎร การเติมเต็มประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ ตั้งแต่ระบอบเก่าที่เดินตามตะวันตก กระโดดมายุคจอมพลสฤษดิ์ ตอบคำถามว่าคณะราษฎรได้พัฒนาทางด้านประวัติศาสตร์เศรษฐกิจด้วยหรือเปล่า นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

‘ณัฐพล’ ป้ายยา ร่าย 92 ปีคณะราษฎร อยากมีอำนาจต้องเข้าหา… ชวนค้นตู้ปู่ หา ‘เหรียญพิทักษ์ รธน.’

ภาพประกอบข่าว

จากนั้น ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวถึงเล่ม ‘ราษฎรปฏิวัติ’ ซึ่งเป็นหนังสือที่อาจารย์เขียนใหม่ล่าสุด พูดถึงความคาดหวังของคนรุ่นใหม่ในเวลานั้นอย่างไรบ้าง?

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวว่า เป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่ตนชอบมาก เป็นรูปเด็กผู้หญิง 2 คนยืนเท้าเอวอย่างองอาจ ทรนง

“ผมได้เห็นเหตุการณ์เมื่อปี 2563 การตื่นตัวของคนรุ่นใหม่ รู้สึกชื่นชมที่พวกเขากล้าหาญมาก ในขณะที่ผมสนใจเรื่องการปฏิวัติ 2475 จึงตัดสนใจว่า ในการปฏิวัติมีประชาชนที่กล้าหาญตื่นตัวบ้างหรือไม่ หรือความรู้แค่ในกระแสหลัก เมื่ออ่านก็ทำให้เข้าใจ

เรียงความที่เด็กเคยเขียนมาส่งในงานวันชาติ หรืองานฉลองรัฐธรรมนูญ สกัดจนเข้าใจความคิด ว่าคนรุ่นใหม่ในยุค 2475 มีความตื่นตัวอย่างมาก ไม่ใช่เด็กหัวอ่อนที่ไม่เข้าใจอะไร เรียงความหลายชิ้นเขาเข้าใจ และสามารถเปรียบเทียบระบอบได้

มีชิ้นหนึ่งเป็นเรียงความของเด็กมัธยม ชื่อ นายสงวน โพธิ์โต เขียนเรียงความประกวดพูดถึงงานฉลองรัฐธรรมนูญที่เขามีความสุขสนุกสนาน เขาบอกว่างานนี้มันสนุกมากกว่างานในระบอบเก่า เพราะเขามีชีวิตคร่อม 2 ระบอบ เห็นทั้งสองจึงเปรียบเทียบได้ว่าอะไรดีกว่ากัน และเด็กสมัยนั้นส่วนใหญ่เลือกระบอบใหม่” ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าว

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวต่อว่า มีข้อความหนึ่งบอกว่า ‘ประเทศสยามของเราเจริญรุ่งเรืองมาได้ถึงเพียงนี้ ก็เพราะกำลังของพลเมืองสยาม’ คือพูดง่ายๆประเทศสยามเจริญมาได้เพราะประชาชน ภูมิใจในความเป็นสามัญชน

“ข้อความนี้สื่อให้เห็นว่าความเจริญและอยู่รอดปลอดภัย เกิดขึ้นได้จากประชาชน ไม่ใช่ผู้อื่นผู้ใด หลังการปฏิวัติ คือการเปิดโลกใหม่ พูดง่ายๆ ระบอบใหม่เกิด สำนึกใหม่ก็เกิด” ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าว

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวอีกว่า มองในแง่การกู้ประเทศชาติจากความเสื่อมโทรม ก็ต่างไปจากคำอธิบายกระแสหลัก ที่ว่าระบบเก่ารุ่งเรือง ประชาธิปไตยเสื่อมโทรม พูดง่ายๆ เขามองไปข้างหน้า ไม่ได้มองย้อนไปเบื้องหลัง

“ไม่ใช่อยากกลับไปยุคเก่าแบบออเจ้า ลองคิดดูว่าถ้ากลับไป เราอาจจะอยู่ใต้ถุนเรือน ทำนาทำไร่อยู่หรือเปล่า แต่คนรุ่นใหม่เขาภูมิใจที่การปฏิวัติ 2475 ทำให้เขามีโอกาสมีอนาคต และยังเห็นว่าควรปฏิวัติทางวัฒนธรรมด้วย ล้างธรรมเนียมบางอย่างที่ล้าสมัย สร้างค่านิยมใหม่ ทำให้เห็นพลังความละมุนของวัฒนธรรม คือต้องเปลี่ยนซอฟต์แวร์ ให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากขึ้น ทำตัวเองให้มีอารยะ นี่คือสิ่งที่ปลูกฝัง”

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวต่อว่า บางส่วนเกิดขึ้นเอง บางส่วนก็ต้องให้การศึกษา หลังการปฏิวัติจะเห็นว่ามีการผลิตหนังสือมากมายเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน จากที่แต่ก่อนเป็นเรื่องหวงแหนเพราะกลัวประชาชนจะฉลาดกว่า แต่ระบอบใหม่ เห็นว่าเมื่อประชาชนฉลาดมากเท่าไหร่ รัฐบาลก็ยิ่งเหนื่อยน้อยมากเท่านั้น เกิดการสร้างมหาวิทยาลัย ในช่วงนั้น

‘ณัฐพล’ ป้ายยา ร่าย 92 ปีคณะราษฎร อยากมีอำนาจต้องเข้าหา… ชวนค้นตู้ปู่ หา ‘เหรียญพิทักษ์ รธน.’

ภาพประกอบข่าว

ตำราเล่มที่สำคัญคือ ‘ตำราบันไดการเมือง’ บอกไว้เลยว่าอยากจะมีอำนาจต้องทำอย่างไร

“อยากมีอำนาจต้องเข้าถึงประชาชน เพราะเกิดจากฐานราก ระบอบการเมืองเริ่มต้นที่ประชาชน แต่น่าสนใจที่วันนี้ปัจจุบันคนส่วนมากไม่เข้าใจหลักการนี้ ทั้งๆ ที่ 2475 สอนว่าอยากมีอำนาจเข้าหาประชาชน”

ดังนั้นหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ยืนยันว่าคนหนุ่มสาวในสมัยนั้นจำนวนมาก สนับสนุนการปฏิวัติ 2475 และชื่นชมบรรยากาศของสังคมใหม่ที่คนเท่ากัน มองไปข้างหน้า ไม่แลอดีต ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่รู้สึกว่าประเทศเป็นของเขา มีความรู้ความสามารถที่จะทำให้ประเทศเจริญได้โดยไม่ต้องอาศัยระบบอุปถัมภ์” ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าว

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวอีกว่า ปีนี้เป็นปีที่ 92 ของการอภิวัฒน์สยาม

“92 ปีที่ผ่านมาผมคิดว่าการเมืองไทยยังลุ่มๆดอนๆอยู่ เป็นการยื้อยุดกันระหว่างพลัง 2 กลุ่ม คือพลังอนุรักษนิยม และเสรีนิยม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจบลงด้วยการใช้กำลังทางการทหารจากกลุ่มอนุรักษนิยม

และแน่นอนว่าการปฏิวัติครั้งแรกเกิดขึ้นจากฝ่ายอนุรักษนิยม เป็นการรัฐประหารเงียบครั้งแรก และพวกเขาก็ใช้วิธีการแบบนี้มาตลอดในขณะที่คนรุ่นใหม่ไม่ยอม สู้กันมาตั้งแต่ 14 ตุลาคม, พฤษภาคม 35 แม้กระทั่งปี 63 ซึ่ง 2 พลังนี้ดึงกันไปกันมา” ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าว

โดยยังชี้ว่าจะเจเนอเรชั่นที่มีความคิดฉีกออกไป คือช่วงวัย 60-70 ในปัจจุบันที่เกิดในยุคสงครามเย็น และเกิดไม่ทันคณะราษฎร ซึ่งรุ่นปู่ย่า ไม่มีภาพจำอย่างที่คนรุ่นพ่อแม่มี เพราะเขามีความรู้สึกกล้าหาญอยากให้ประเทศชาติก้าวหน้า ต้องการประชาธิปไตย

“ผมคิดว่า generation Y, Z และ alpha มีความรู้สึกไม่แตกต่างไปจากปู่ย่าตาทวดเขา ที่มีปัญหาคือ generation ที่อยู่ในรุ่นสงครามเย็นหรือรุ่นพ่อแม่ของเรา จึงกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายของกลไกรัฐในการโฆษณาชวนเชื่ออย่างมาก เพื่อให้เชื่ออย่างเจเนอเรชั่นรุ่นพ่อแม่” ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าว และว่า เมื่อไม่เชื่อยิ่งทำให้กลุ่มอนุรักษนิยมวิตกอย่างมากว่าจะทำอย่างไรให้สำเร็จ ซึ่งคงสำเร็จได้ยากเพราะเจนเนอเรชั่น Y, Z และ alpha เขาเป็นพลเมืองโลก Global citizen เขามองข้ามประเทศไทยไปยังโลกข้างนอก มีความรู้อย่างกว้างขวางให้เปรียบเทียบได้ ไม่ได้อยู่ใน generation แบบพ่อแม่ที่ดูแค่ทีวีช่องหลัก เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงของโลก จึงเป็นการยากที่จะทำให้พวกเขากลับไปอยู่ในกะลา หรือแนวคิดแบบสงครามเย็นอีก”

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับการจะเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนอยากยกตัวอย่างข้อสรุปของตน เรื่องพัฒนาการเมืองการปกครองของไทยตั้งแต่ 2475 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการจำกัดอำนาจของผู้ปกครอง ให้ประชาชนมีอำนาจสูงสุด

“แต่ยิ่งนานเข้าในระยะหลัง กลับกลายเป็นระบอบการปกครองที่จำกัดอำนาจประชาชน

92 ปีที่แล้วคณะราษฎรพยายามจะจำกัดอำนาจเดิม แต่น่าแปลกใจแทนที่จะก้าวหน้าขึ้น เรากลับหวนถอยหลัง” ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าว

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘ณัฐพล’ ป้ายยา ร่าย 92 ปีคณะราษฎร อยากมีอำนาจต้องเข้าหา… ชวนค้นตู้ปู่ หา ‘เหรียญพิทักษ์ รธน.’

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.matichon.co.th

News Related
  • สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน

    Courtesy of ByteDance https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334883.mp3?cb=1701136108.mp3 สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า ByteDance บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมอย่าง TikTok สั่งปลดพนักงานในแผนกเกมออกราว 1,000 คน พร้อมยกเลิกการพัฒนาเกมที่ยังไม่ได้เปิดตัวทั้งหมด และเตรียมขายเกมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้บริษัทอื่นด้วย แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ByteDance มองว่าธุรกิจเกมไม่ได้สำคัญมากนักและมีโอกาสที่จำกัดในการสร้างรายได้ บริษัทจึงเลือกที่จะทุ่มเทกับธุรกิจหลักมากกว่า เช่น TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่พ่วงมากับอีคอมเมิร์ซ ซึ่งกำลังประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งนี้ ByteDance เคยมีความทะเยอทะยานอย่างมากกับธุรกิจเกม และต้องการต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent Holdings บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากรายได้ โดย ByteDance ได้ลงทุนอย่างจริงจังในธุรกิจเกมมาตั้งแต่ปี 2016 และในระหว่างปี 2019 ถึงปี 2022 พวกเขาทุ่มเงินมากถึง 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 151,200 ล้านบาท เพื่อลงทุนในบริษัทเกมมากกว่า 19 แห่ง ความทะเยอทะยานของ ByteDance ค่อย ๆ ลดลงจากผลงานที่น่าผิดหวัง ...
    See Details: สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน
  • สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก

    สุภโชค สารชาติ เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขัน เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 ได้ประกาศโปรแกรมการแข่งขันในปีนี้ออกมาแล้ว สำหรับปีนี้จะใช้ชื่อเต็มว่า ไทยประกันชีวิต เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 พาวเวอร์ดบาย เมจิ ยาสึดะ หลังได้ ไทยประกันชีวิต เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักอีกทั้งยังได้เซ็นข้อตกลงกับบริษัท นิคอน คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ “บรอนซ์ พาร์ทเนอร์” ด้วย เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 จะมี 4 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วย 2 ทีมไทยลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่วนทีมจากเจลีก ประกอบด้วย ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ เซเรโซ ...
    See Details: สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก
  • ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4

    ภาพประกอบข่าว ครม. เคาะกฎกระทรวงขยายเวลาให้สถานบริการที่ตั้งในโรงแรมถูกกฎหมาย สถานบริการที่ตั้งใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย ได้ถึง 4.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 พ.ย. 2566 ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่….) พ.ศ… ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฯ จะกำหนดให้สถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังต่อไปนี้เปิดให้บริการได้ถึงเวลา 4.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้ ได้แก่ สถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม, สถานบริการที่ตั้งอยู่ในท้องที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาพประกอบข่าว สำหรับท้องที่อื่นที่ประสงค์จะให้สถานบริการเปิดทำการได้ถึง 4.00 ...
    See Details: ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4
  • อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา

    Elon_Musk_Plan_City_Cover https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334745.mp3?cb=1701136565.mp3 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน อิสราเอลได้ต้อนรับการมาเยือนของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ในระหว่างที่หยุดทำสงครามกับฮามาสเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงในหลักการสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ในฉนวนกาซา หลังจากมัสก์รับปากว่าจะให้การช่วยเหลือการเชื่อมต่อเน็ตในฉนวนกาซาผ่าน “องค์กรช่วยเหลือที่สากลยอมรับ” ในช่วงที่อิสราเอลเริ่มถล่มฉนวนกาซาอย่างหนักจนการสื่อสารถูกตัดขาดลง ช่วงบ่ายของวันจันทร์ ไอแซค เฮอร์ซอก (Isaac Herzog) ประธานาธิบดีของอิสราเอลมีกำหนดจะพูดคุยกับมัสก์ และพวกเขาจะเข้าร่วมพูดคุยกับญาติของตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาจับตัวไว้ เพื่อหาทางต่อสู้กับการต่อต้านชาวยิวที่เพิ่มขึ้นบนโลกออนไลน์ ในวันเดียวกัน เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีกำหนดหารือกับมัสก์เกี่ยวกับความปลอดภัยของเอไอ และจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์ หลังจากทั้งสองพึ่งพบกันล่าสุดในแคลิฟอร์เนียเมื่อ 18 กันยายน เกี่ยวกับการต่อต้านชาวยิวบนแพลตฟอร์ม X และหาจุดสมดุลของเสรีภาพในการแสดงออก ปลายเดือนตุลาคม ช่วงที่มัสก์เผยว่าจะมอบเน็ตสตาร์ลิงก์ให้ใช้งานในฉนวนกาซา ชโลโม คาร์ฮี (Shlomo Karhi) กสทช. ของอิสราเอลได้แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ากลุ่มฮามาสจะนำเน็ตไปใช้ในการก่อการร้าย แต่การพูดคุยล่าสุดเน็ตสตาร์ลิงก์จะถูกใช้ในอิสราเอลเฉพาะเมื่อได้รับอนุมัติจากกระทรวงคมนาคมของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงในฉนวนกาซาด้วย ...
    See Details: อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา
  • 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ

    ‘ไบท์แดนซ์’ จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก ‘เทนเซ็นต์’ ไม่สำเร็จ สำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างอิงแหล่งข่าวเผยว่า ไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ติ๊กต็อกวางแผนปลดพนักงานฝ่ายเกมมิงและยุบธุรกิจพัฒนาเกมที่เป็นหน้าเป็นหน้าของบริษัทอย่าง Nuverse ถือเป็นการถอนตัวออกจากอุตสาหกรรมเกมครั้งใหญ่ ยกชัยชนะให้กับคู่แข่งอย่างเทนเซ็นต์ทันที แหล่งข่าวระบุว่า ไบท์แดนซ์ เตรียมปลดพนักงานหลายร้อยคน รวมทั้งยุบหลายโครงการที่กำลังพัฒนาและฉุดศักยภาพยอดขายของธุรกิจที่มีอยู่ ตามที่รอยเตอร์เคยรายงานหน้านี้ บริษัทยังพิจารณาขายเซี่ยงไฮ้ มูนตัน เทคโนโลยี สตูดิโอพัฒนาวิดีโอเกมชั้นนำที่ซื้อมาด้วยมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ (1.4 แสนบาท) เมื่อปี 2564 ด้วย การสร้างเกม ถือเป็นธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ปีก่อน ไบท์แดนซ์เริ่มปิดสตูดิโอของตนเองและปลอดพนักงานฝ่ายพัฒนาหลายคน หลังเปลี่ยนไปโฟกัสธุรกิจหลักอย่างติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ๆ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเดือนนี้ก็ปลดพนักงานเกือบ 1 ใน 4 ของฝ่ายพิโค (Pico) ธุรกิจอุปกรณ์โลกเสมือน ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ภาคธุรกิจเกมในโทรศัพท์มือถือของจีน ประสบปัญหาฟื้นธุรกิจให้ถึงจุดสูงสุดเหมือนช่วงโควิด-19 ในขณะที่เศรษฐกิจโลกชอละตัว ไบท์แดนซ์จึงค่อย ๆ ลดความทะเยอทะยานในอุตสาหกรรมเกม เมื่อไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเทนเซ็นต์ได้ ในทางกลับกันผู้นำอุตสาหกรรมเกมอย่างเทนเซ็นต์ ยังคงรักษาการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน เพราะได้รับแรงหนุนจากเครดิตผู้นำอุตสาหกรรม ...
    See Details: 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ
  • TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น

    ภาพประกอบข่าว TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้เศรษฐกิจโลกปี 2567 จะโตแบบชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2566 ผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดในรอบหลายทศวรรษ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง แต่ไม่เลวร้ายถึงขั้น “เศรษฐกิจถดถอย”  แนะลงทุนพันธบัตรเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน 8-15% ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลขาดทุนของพอร์ตโดยรวม นายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) (Mr.Thammarat Kittisiripat, Head of Economic Unit, TISCO Economic Strategy Unit) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2567 จะชะลอตัวลง อันเป็นผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่จะส่งผลกดดันต่อกิจกรรมเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ทั้งกิจกรรมด้านบริการและภาคการผลิต นอกจากนี้ ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางต่างๆ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ ทำให้ TISCO ESU ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 2567 จะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารกลางจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวแต่ยังให้น้ำหนักไม่มาก ที่จะเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” โดยหากอ้างอิงจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มที่ “พัฒนาแล้ว” จะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ...
    See Details: TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น
  • “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน

    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  ผู้แทนการค้าไทย หารือผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย และตัวแทนบริษัทส่งออกผลไม้ไทย เพื่อร่วมมือผลักดันการส่งออกโคและผลไม้ไทยไปจีน ผู้แทนการค้ากล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การส่งออกเดือน ต.ค.2566 มีมูลค่า 23,578.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% เป็นบวกต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 13 เดือน นับจากเดือนก.ย.2565 ซึ่งการส่งออกที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 9.3% โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 12.3% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5.9% สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง อาหารสุนัขและแมว ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง สิ่งปรุงรสอาหาร ผักกระป๋องและผักแปรรูป ผู้แทนการค้ากล่าวว่า สินค้าเกษตรจึงเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของไทย จากการหารือกับสมาคมผู้ส่งออกฯ ที่ผ่านมาประเทศไทยติดปัญหาการส่งออกโคมีชีวิตไปยังประเทศจีน ซึ่งต้องให้ผ่านการรับรองจาก ...
    See Details: “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน
  • มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน
  • น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)
  • เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล
  • กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา
  • SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร
  • สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

OTHER NEWS

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด!

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด! รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ เดือดสุด !! เพราะเป็นรอบที่น้องๆ ทีมสีส้ม “ไข่มุก-ชาโอม-จอย” และทีมสีม่วง “ฟิว-ทศกัณฐ์-ปอนด์” ต้องมานั่งโต๊ะเป็นผู้ประกาศข่าวจริงๆ รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ ใน THE REAL NEXT GEN อมรินทร์เน็กซ์เจน Presented By est cola รายการเรียลลิตี้ ... Read more »

นายกฯ เผย ครม.เคาะขึ้นเงินเดือน ขรก.แล้ว รอฟังโฆษกแถลงได้เลย

ภาพประกอบข่าว นายกฯ เผย ครม.พิจารณาวาระขึ้นเงินเดือนแล้ว ให้โฆษก รบ.แถลง พร้อมเรียก รมต.เพื่อไทยถกต่อ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันนี้ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาวาระการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งมอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกฯเป็นผู้แถลง ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังนายกฯเป็นประธานการประชุม ครม.ชุดใหญ่แล้ว นายกฯได้เชิญรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ... Read more »

ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’!

ภาพประกอบข่าว ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’! จากรกรณีที่ เด่นนาโพธิ์ ส.ธัญญาลักษณ์ นักมวยไทย ขึ้นชกกับ ก้องนภา ศรีมงคล เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่เวทีมวยวัดบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยการชกครั้งนี้ เด่นนาโพธิ์ แพ้น็อกไปอย่างกังขาในยกที่ 3 ทั้งที่ เด่นนาโพธิ์ เป็นฝ่ายฟันศอก ก้องนภา ... Read more »

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ ก่อนแง้มข่าวดีกลางปีหน้า แม้ว่าก่อนหน้านี้ บริษัท PP Krit Entertainment ของศิลปินนักแสดงชื่อดัง พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ได้ออกหนังสือชี้แจงมาตรการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของศิลปิน หลังมีบุคคลบางกลุ่มพยายามละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่ดูเหมือนว่ายังคงมีหลายคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎดังกล่าว จนเป็นเหตุให้คนใกล้ชิดต้องออกมาพูดเตือนสติเรื่องนี้อีกครั้งผ่านทางโซเชียล ล่าสุดเจอ พีพี ในงาน centralwOrld Light Up Christmas Tree Celebration ที่ ลานสแควร์A หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ... Read more »

สมยศ เผยเซ็นสัญญา"อิชิอิ"คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน

สมยศ เผยเซ็นสัญญา”อิชิอิ”คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน จากกรณี “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ประกาศอย่างเป็นทางการแยกทาง มาโน่ โพลกิ้ง จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน หลังผลงานคัดบอลโลก 2 นัดแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่น อดีตกุนซือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ แทนทันที ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เผยว่าเรื่องการเลือกโค้ช เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน มาดามแป้ง ... Read more »

ปุ้ย TPN อัปเดต มิสยูนิเวิร์ส 2023 หลังรัฐบาลนิการากัว สั่งห้ามเข้าประเทศ

หลังจากจบการประกวด Miss Universe 2023 แต่งานนี้ก็ยังมีเรื่องให้ ปุ้ย ปิยาภรณ์ หรือที่แฟนนางงามรู้จักในชื่อ ปุ้ย TPN ต้องมาชี้แจงหลายประเด็นที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ Miss Universe คนล่าสุดเข้าประเทศไม่ได้ หรือประเด็นที่บริษัท TCG จะฟ้อง JKN ซึ่ง JKN เป็นบริษัทแม่ และ TPN เป็นบริษัทลูก จะโดนร่างแหไปด้วยหรือไม่ งานนี้เจ้าตัวก็ได้ตอบแบบเคลียร์ว่า “ข่าวที่ว่ามิสยูนิเวิร์สเขาเข้าประเทศไม่ได้น่ะเหรอ นี่ก็ได้คุยกับ ND ... Read more »

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งรถแจ๊ซเมาหนักเดินเซขึ้นรถตำรวจ หลังจากพยายามขับรถพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ แถมไม่สลดในมือยังถือกระป๋องเบียร์ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจ สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ เฉี่ยวชนกันจนเกิดพลิกคว่ำ บริเวณอุโมงค์ท่าพระ มุ่งหน้าจาก ถนน จรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าถนน รัชดาท่าพระ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงลาดขาลงทางลอดอุโมงข้ามแยกใต้แยกท่าพระ ทิศทางมุ่งหน้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าไปทางถนน รัชดาท่าพระ แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ ... Read more »
Top List in the World