ค่าสมัคร สว.67 เท่าไร? ควรเลือกกลุ่มไหน เจาะ 20 กลุ่มอาชีพ-อัตลักษณ์เข้าเกณฑ์
ค่าสมัคร สว.67 ราคาเท่าไร? เช็กคุณสมบัติ-ลักษณะต้องห้าม ควรเลือกลงสมัครกลุ่มไหน เจาะ 20 กลุ่มอาชีพ-อัตลักษณ์ ที่เข้าเกณฑ์
จากกรณี วุฒิสมาชิก (สว.) 250 คน จากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ 2560 จะครบวาระห้าปี ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 นี้ นำไปสู่การ เลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา 2567
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะสมัครรับเลือก ส.ว. สามารถ ขอรับเอกสารการสมัครด้วยตนเองพร้อมบัตรประชาชนแบบ Smart Card ได้ที่สำนักทะเบียนอำเภอ โดยมีค่าสมัครเป็นเงินสด ค่าธรรมเนียมการสมัคร 2,500 บาท
อ่านข่าวเพิ่มเติม :
ภาพประกอบข่าว
การแบ่งกลุ่มผู้สมัครรับเลือกส.ว.
สำหรับการแบ่งกลุ่มที่สมัครรับเลือกส.ว. จำนวน 20 กลุ่ม ตามมาตรา 11 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ดังนี้
1. กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ได้แก่ ผู้เคยเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ทั้งยังรวมถึงผู้ที่เคยประกอบอาชีพหรือดำรงตำแหน่งเหล่านี้
- พนักงานในรัฐวิสาหกิจ
- พนักงานในหน่วยงานอื่นของรัฐ ซึ่งหน่วยงานอื่นของรัฐ เช่น องค์การมหาชน หน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญ-องค์กรอิสระ
- ลูกจ้างผู้ซึ่งปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
- ผู้ที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานทางปกครอง โดยคำว่า หน่วยงานทางปกครอง ไม่ได้หมายถึงแค่ส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครอง หรือให้ดำเนินกิจการทางปกครองด้วย (ตามนิยามในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 3) เช่น องค์การวิชาชีพ องค์การเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจในรูปแบบบริษัท ที่ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครองหรือดำเนินกิจการทางปกครอง
- ประธานหรือกรรมการในคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท
- ประธานหรือกรรมการในคณะกรรมการซึ่งมีกฎหมายให้อำนาจในการออกกฎ คำสั่ง หรือมติใดๆ ที่มีผลกระทบต่อบุคคล
-
บุคคลซึ่งมีกฎหมายให้อำนาจในการออกกฎ คำสั่ง หรือมีมติใดๆ ที่มีผลกระทบต่อบุคคล
หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
ภาพประกอบข่าว
2.กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ยังรวมถึงผู้ที่เป็นหรือเคยเป็น
- ดะโต๊ะยุติธรรม
- ผู้พิพากษาสมทบ
- นายทหารพระธรรมนูญ
- เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง
- นิติกร
- เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
- เจ้าพนักงานบังคับคดี
- พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ
- พนักงานคุมประพฤติ
- นักนิติวิทยาศาสตร์
- นักทัณฑวิทยา
- เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
- เจ้าพนักงานพินิจ
- ทนายความ
- ที่ปรึกษากฎหมาย
- อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์หรือภาควิชานิติศาสตร์หรือสาขาวิชานิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีกฎหมายรับรอง
- เจ้าพนักงานคดี
- ผู้ประนีประนอม
- พนักงานคดีปกครอง
- พนักงานไต่สวน
- เจ้าพนักงานตำรวจศาล
- หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
3.กลุ่มการศึกษา ได้แก่ ผู้เป็นหรือเคยเป็นครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ยังหมายถึง
- ผู้เป็นหรือเคยเป็นนักวิชาการศึกษา
- นักวิชาการศึกษาพิเศษ
- วิทยาจารย์
- บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐหรือเอกชนที่มีกฎหมายรับรอง
- บุคลากรในสังกัดสถาบันอาชีวศึกษาของรัฐหรือเอกชนที่มีกฎหมายรับรอง
- บุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษาของรัฐหรือโรงเรียนเอกชนที่มีกฎหมายรับรอง
- บุคลากรทางการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การมหาชนหรือรัฐวิสาหกิจ
- บุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาที่จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
- บุคลากรทางการศึกษาในสังกัดกระทรวงกลาโหม
- บุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- บุคลากรทางการศึกษาในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
- บุคลากรทางการศึกษาในสังกัดกรมพลศึกษา
- นักวิชาการอิสระ
- หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
4.กลุ่มสาธารณสุข ได้แก่ ผู้เป็นหรือเคยเป็นแพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ยังรวมถึง
- ทันตแพทย์
- นักปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์
- นักกายภาพบำบัด
- นักกิจกรรมบำบัด
- นักจิตวิทยา
- นักจิตวิทยาคลินิก
- สัตวแพทย์
- นักการแพทย์แผนไทย
- นักโภชนาการ
- นักรังสีการแพทย์
- นักอาชีวบำบัด
- นักวิชาการอาหารและยา
- นักวิทยาศาสตร์การแพทย์นักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย
- ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก สาขาการแพทย์แผนจีน
-ผู้เป็นหรือเคยเป็นบุคคลซึ่งได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต
– ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา
– ผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์จากสภาเทคนิคการแพทย์
– ผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนจากสภาการสาธารณสุขชุมชน และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารผู้ปฏิบัติการ ผู้ให้บริการ ผู้สอน ผู้มีผลงานวิจัยด้านการสาธารณสุขชุมชน
– ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์จากสภาการพยาบาล
– ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมจากสภาเภสัชกรรม
- หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
5. กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
6. กลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน เช่น
- นักวิชาการป่าไม้
- พนักงานป่าไม้
- นักกีฏวิทยา
- นักวิชาการแผนที่ภาพถ่าย
- พนักงานพิทักษ์ป่า
- เจ้าหน้าที่ตรวจป่า
- ผู้ปลูกสร้างสวนป่า
- วนเกษตร
- อาชีพการนำผลผลิตจากป่ามาแปรรูปให้เกิดประโยชน์
- อาชีพการแปรรูปไม้
- ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไม้
- อาชีพค้าไม้ท่อน ค้าไม้แปรรูป
- อาชีพส่งออกและนำเข้าไม้
- อาชีพทำและค้าเฟอร์นิเจอร์และสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากไม้
- นักวิจัย
- นักฟื้นฟูป่าไม้จากการถูกทำลาย
- หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
7. กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคล ซึ่งไม่ใช่ราชการหรือหน่วยงานรัฐ ผู้ใช้แรงงาน หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
ใน พ.ร.ป.สว. ฯ มาตรา 11 (7) กำหนดกลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน ซึ่งในประกาศ กกต. ขยายความเพิ่มว่า เป็นผู้ประกอบอาชีพตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
ดังนั้น หากเป็นลูกจ้าง ที่ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ และมีนายจ้าง ทำสัญญาจ้างแรงงาน เช่น พนักงานบริษัทเอกชนไม่ว่าจะทำงานด้านใดก็ตาม ลูกจ้างในโรงงาน ก็สามารถสมัคร สว. กลุ่มนี้ได้ แต่หากทำงานอิสระ เป็นฟรีแลนซ์ จะต้องสมัครกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
8. กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
- นักธรณีวิทยา
- ผู้จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมบุคคลธรรมดา
- ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญในคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
- ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม
- ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม
- นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
- นักวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
- นักวิชาการสิ่งแวดล้อม
- นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
- วิศวกรสิ่งแวดล้อม
- นักวิทยาศาสตร์
- วิศวกรโยธา
- นักวิเคราะห์นโยบายและแผน
- ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางผังเมือง
- ผู้วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม
- ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน
- ผู้ประกอบการด้านการติดตั้งและดูแลรักษาแผงโซล่าเซลล์
- ผู้ประกอบการด้านการผลิตพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน
- ผู้ประกอบการระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ
- นักพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบด้านสิ่งแวดล้อม
- กรรมการวัตถุอันตราย
- กรรมการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง
- กรรมการด้านความปลอดภัยในการประกอบกิจการพลังงาน
- ผู้มีผลงานทางวิชาการด้านพลังงาน เช่น การจัดทำแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง (Oil Plan)
- ผู้บริหารหรือที่ปรึกษาของภาครัฐหรือเอกชนที่ประกอบกิจการด้านพลังงาน
- อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยในสาขาที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน
- ผู้ประกอบกิจการไฟฟ้า
- ผู้ประกอบกิจการก๊าซธรรมชาติ
- ผู้ประกอบกิจการน้ำมัน
- ผู้ประกอบกิจการโครงข่ายพลังงาน
- ผู้ประกอบกิจการด้านพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือกและการอนุรักษ์พลังงาน
- วิศวกรด้านพลังงาน
- นักวิชาการด้านพลังงาน
- ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพลังงาน
- ผู้ประกอบกิจการไฟฟ้า
- ผู้ประกอบกิจการระบบโครงข่ายพลังงาน
- ผู้ประกอบกิจกรรมพลังงานหมุนเวียน
- ผู้ประกอบกิจการระบบโครงข่ายพลังงานศูนย์ควบคุมระบบโครงข่ายพลังงาน
- หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
9. กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อยตามกฎหมาย หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
กำหนดลักษณะของกิจการขนาดย่อม ไว้ว่า
- กิจการผลิตสินค้าที่มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 50 คนหรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 100 ล้านบาท
- กิจการให้บริการ กิจการค้าส่ง หรือกิจการค้าปลีก ที่มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 30 คนหรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 50 ล้านบาท
กิจการขนาดกลาง คือ
- กิจการผลิตสินค้าที่มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 50 คนแต่ไม่เกิน 200 คนหรือมีรายได้ต่อปีเกินกว่า 100 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 500 ล้านบาท
- กิจการให้บริการ กิจการค้าส่ง หรือกิจการค้าปลีก ที่มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 30 คนแต่ไม่เกิน 100 คนหรือมีรายได้ต่อปีเกินกว่า 50 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 300 ล้านบาท
ในประกาศ กกต. ยังยกตัวอย่างกิจการเพิ่มเติม ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้ คือ กลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
ซึ่งในพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 กำหนดนิยามวิสาหกิจชุมชนไว้ว่า กิจการของชุมชนเกี่ยวกับการผลิตสินค้า การให้บริการ หรือการอื่น ๆ ที่ดำเนินการโดยคณะบุคคลที่มีความผูกพัน มีวิถีชีวิตร่วมกันและรวมตัวกันประกอบกิจการดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคลในรูปแบบใดหรือไม่เป็นนิติบุคคล เพื่อสร้างรายได้และเพื่อการพึ่งพาตนเองของครอบครัว ชุมชน และระหว่างชุมชน
นอกจากกลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม ในพ.ร.ป.สว. ฯ มาตรา 11 (10) ยังกำหนดให้มีกลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตาม (9) อย่างไรก็ดี ในประกาศ กกต. ฉบับนี้ ไม่ได้ขยายความหรือยกตัวอย่างเพิ่มเติมว่าผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตาม (9) คือกิจการประเภทใด เท่ากับว่า หากเป็นผู้ประกอบกิจการที่ขนาดใหญ่กว่ากลุ่ม SMEs ก็สามารถสมัครกลุ่ม (10) ได้
10. กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตามกลุ่มที่9
11. กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการหรือพนักงานโรงแรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ยังรวมถึง
- ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว
- ผู้นำเที่ยว
- นักพัฒนาการท่องเที่ยว
- หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
12. กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
ในประกาศ กกต. ยังยกตัวอย่างเพิ่มว่ารวมถึง กลุ่มผู้ประกอบการตามกฎหมายว่าด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
13. กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตรกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน เช่น
- กลุ่มผู้ประกอบอาชีพตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
- กลุ่มอาชีพการพัฒนาและการออกแบบซอฟต์แวร์
- กลุ่มอาชีพการวิเคราะห์และการออกแบบระบบ
- กลุ่มอาชีพการทดสอบและการควบคุมคุณภาพ
- กลุ่มอาชีพการออกแบบและสถาปัตยกรรม
- กลุ่มอาชีพการพัฒนาและการบำรุงรักษาเทคนิค
- กลุ่มอาชีพการจัดการและการปรึกษา
- กลุ่มอาชีพ Hardware
- กลุ่มอาชีพความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
- กลุ่มอาชีพการจัดการและการปรึกษา (ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์)
- กลุ่มอาชีพการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- กลุ่มอาชีพการสื่อสารโทรคมนาคม
- กลุ่มอาชีพวิศวกรรมโทรคมนาคมและการบริหารคุณภาพ (Telecommunication Engineering and Quality Management)
- กลุ่มอาชีพปฏิบัติการโทรคมนาคมและการสนับสนุนการปฏิบัติการ (Telecommunication Operation and Support)
- กลุ่มอาชีพสาธารณูปโภคด้านโทรคมนาคมและสถาปัตยกรรม (Telecommunication Utilities / Facilities)
- กลุ่มอาชีพนักพัฒนาแอนิเมชัน
- กลุ่มอาชีพการบริหารโครงการสารสนเทศ
- กลุ่มอาชีพธุรกิจดิจิตัลและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- กลุ่มอาชีพนักพัฒนาเกม
- กลุ่มอาชีพวิศวกรรมข้อมูล
- กลุ่มอาชีพวิทยาศาสตร์และการจัดการสิ่งแวดล้อม
- หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
14. กลุ่มสตรี
15. กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
16. กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน เช่น
- นักพัฒนาการกีฬา
- ภัณฑารักษ์
- นักภาษาโบราณ
- นักวรรณศิลป์
- นักวิชาการวัฒนธรรม
- นักอักษรศาสตร์
- ผู้ประกอบกิจการตามกฎหมายว่าด้วยภาพยนตร์และวีดิทัศน์
- หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
17. กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน เช่น
- มูลนิธิหรือสมาคม ที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือตามกฎหมายอื่นโดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสวัสดิการสังคม
- องค์กรตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม
- หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
18. กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน เช่น
- นักการข่าว
- นักวิชาการเผยแพร่
- นักวิชาการโสตทัศนศึกษา
- นักสื่อสารมวลชน
- ผู้ประกอบกิจการตามกฎหมายว่าด้วยการจดแจ้งการพิมพ์
- ผู้ประกอบกิจการตามกฎหมายว่าด้วยกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
- หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
19. กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ประกาศ กกต. ยกตัวอย่างอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้ ได้แจกแจงออกเป็นสามกลุ่ม คือ
(1) กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ คือ ผู้ประกอบอาชีพอิสระซึ่งไม่มีนายจ้าง และเป็นอาชีพที่ต้องมีความชำนาญเฉพาะด้านและต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ซึ่งถูกกำหนดไว้ในกฎหมาย เช่น วิชาชีพกายภาพบำบัด วิชาชีพการแพทย์แผนไทย วิชาชีพการสัตวแพทย์ วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน วิชาชีพทันตกรรม วิชาชีพบัญชี วิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ตัวแทนประกันชีวิต หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่น ที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
(2) กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ คือ ผู้ประกอบอาชีพซึ่งไม่มีนายจ้าง เช่น
(ก) ผู้ประกอบอาชีพค้าขาย
(ข) ผู้ประกอบอาชีพรับจ้างหรือให้บริการ
(ค) ผู้รับงานไปทำที่บ้าน
(ง) ผู้ผลิตเนื้อหาเรื่องใดที่ไม่ใช่โฆษณา เพื่อเผยแพร่ผ่านบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (YouTuber/Content Creator/Influencer)
(จ) ตำแหน่งหรืออาชีพอื่นที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
(3) กลุ่มผู้ประกอบอาชีพกึ่งอิสระ เช่น
(ก) ผู้ประกอบอาชีพรับจ้างหรือให้บริการตามข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการที่ผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลกำหนด เช่น กลุ่มคนทำงานแพลตฟอร์ม (Platform Worker) ที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการประกอบอาชีพ ผู้รับจ้างหรือให้บริการขนส่งคนโดยสารสิ่งของหรืออาหาร (Rider) ผู้รับจ้างทำความสะอาดหรือบริการอื่น ๆ หรือตำแหน่งหรืออาชีพอื่น ที่ผู้สมัครยืนยันและมีผู้รับรอง
(ข) ผู้ประกอบอาชีพรับจ้างหรือให้บริการตามข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการที่ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลกำหนด
สำหรับกลุ่มอื่นๆ ตาม พ.ร.ป.สว. ฯ มาตรา 11 (20) ในประกาศ กกต. ฉบับนี้ ไม่ได้ขยายความไว้
กรณีที่เป็นกลุ่มอัตลักษณ์ ได้แก่ กลุ่มสตรี ตามมาตรา 11 (14) และกลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ตามมาตรา 11 (15) ไม่จำเป็นต้องมีผู้รับรอง แต่หากเป็นกลุ่มอาชีพ-วิชาชีพ จะต้องมีผู้รับรองประสบการณ์ในกลุ่มอาชีพนั้นๆ ด้วย
20. กลุ่มอื่นๆ
ที่มา : ilaw
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ค่าสมัคร สว.67 เท่าไร? ควรเลือกกลุ่มไหน เจาะ 20 กลุ่มอาชีพ-อัตลักษณ์เข้าเกณฑ์
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.khaosod.co.th