“ขนมครกไทย” คว้าอันดับ 4 เมนูแพนเค้กที่ดีที่สุดในโลก โดย TasteAtlas
“ขนมครกไทย” คว้าอันดับ 4 เมนูแพนเค้กที่ดีที่สุดในโลก โดย TasteAtlas
กระแสซอฟพาวเวอร์ในไทยยังคงแรงไม่หยุดเว็บไซต์จัดอันดับอาหารชื่อดังอย่าง tasteatlas.com ได้ทำการจัดอันดับประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ใน “หมวดแพนเค้กที่ดีที่สุดในโลก” ปรากฏว่า “ขนมครก” จากประเทศไทยเข้าไปติดถึงอันดับที่ 4 ของโลก ในช่วงปีที่ผ่านมา อาหารไทยมักเป็นที่พูดถึงของชาวต่างชาติในเรื่องรสชาติ ความอร่อยและถูกจัดอันดับเป็นจานที่ดีที่สุดหลายครั้ง อย่าง ผัดกะเพรา ก็เคยคว้าแชมป์เมนูดีที่สุดในโลกประเภทผัด ส่วนพะแนงก็ได้ในประเภทแกง
TasteAtlas ได้มีการระบุลักษณะของ “ขนมครกไทย” ไว้ว่า ขนมไทยขนาดเล็กนี้ มักเรียกกันว่า แพนเค้ก พุดดิ้ง หรือเค้ก ทำด้วยแป้งที่ผสมแป้งข้าวเจ้าและกะทิ อบในกระทะเหล็กขนาดใหญ่ที่มีรอยเว้ากลมเล็กๆ มีแป้งที่ใช้เป็นชั้นล่าง และ กะทิ ที่มีรสหวาน การเพิ่มไส้ที่มีลักษณะคล้ายคัสตาร์ด ได้แก่ ต้นหอมหั่น เผือก ข้าวโพด หรือฟักทอง ขนมครกเป็นอาหารสตรีทฟู้ดของไทย โดยทั่วไปมักรับประทานเป็นของว่าง ของทานเล่น มีความสมดุลของรสชาติเป็นอย่างดี
ประวัติศาสตร์ขนมครกไทย
ย้อนไปในสมัยอยุธยา “ขนมครก” ถือเป็นอาหารหวานที่นิยมทานกันอย่างแพร่หลายมาก มีการทำเตาขนมครกขายตั้งแต่ในยุคนั้น ขนมครกแต่เดิมใช้ข้าวเจ้าแช่น้ำ โม่รวมกับหางกะทิ ข้าวสวย และมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ผสมเกลือเล็กน้อยใช้เป็นตัวขนม ส่วนหน้าของขนมครกเป็นหัวกะทิ ขนมครกชาววังจะมีการดัดแปลงหน้าขนมครกให้แปลกไปอีก เช่น หน้ากุ้ง (แบบเดียวกับข้าวเหนียวหน้ากุ้ง) หน้าไข่ หน้าหมู (แบบเดียวกับไส้ปั้นสิบ) หน้าเผือก หน้าข้าวโพด หน้าต้นหอม
ปัจจุบันขนมครกในไทยมี 2 ประเภท คือ
ขนมครกมอญ
เป็นขนมเก่าแก่ของชาวมอญ ปัจจุบันเหลือที่ชุมชนมอญตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีเพียงแห่งเดียว ใช้ข้าวเหนียวดิบแช่น้ำจนชุ่มมาละเลงในเบ้าขนมครก ไส้เป็นมะพร้าวขูด น้ำตาลทรายและงาคั่ว เคล้าให้เข้ากัน
ขนมครกชาววัง
เป็นขนมครกที่เทแป้งลงในเบ้าให้ติดๆ กัน และมีหน้าหยอดหลากหลาย เช่น เผือก มัน ฝอยทอง ฯลฯ เวลาสุกจะร่อนออกมา แล้วจึงตัดแบ่งออกรับประทาน
“ขนมครก” ถือเป็นของหวานที่หาทานได้ง่ายและมีราคาถูก สามารถซื้อได้ตามตลาดนัด งานวัด หรืองานเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นทั่วไป และมีการนำไส้ต่างๆ มาไว้โรยบนหน้ากะทิมากมายทั้งต้นหอม ข้าวโพด เผือก ฟักทอง รวมไปถึงการนำแป้งไปผสมกับอาหารอื่นๆ เพื่อให้ออกมามีสีสันสวยงาม น่ารับประทานยิ่งขึ้น อาทิ แป้งสีน้ำเงินที่ผสมจากน้ำดอกอัญชัน แป้งสีเขียวที่ผสมกับใบเตย เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก tasteatlas.com และ วิกิพีเดีย