การเสื่อมสลายของปราสาทขอมในดินแดนไทย มาจากสาเหตุและปัจจัยใดบ้าง

ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงจากการยึดถือศาสนาพราหมณ์ฮินดู ผสมผสานกับพุทธมหายานของขอม มาเป็นพุทธเถรวาทลังกา เมื่อราวต้นพุทธศักราช 1800 ในดินแดนลุ่มน้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก ตลอดจนบริเวณที่ราบสูงอีสาน เราจะพบหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงช่วงแรกเริ่มของการเปลี่ยนแปลงว่ายังคงยึดถือรูปแบบสถาปัตยกรรมขอมดั่งเดิม นั่นคือ ปรางค์ประธาน ซึ่งเดิมใช้สำหรับประดิษฐานรูปเคารพของพราหมณ์ เปลี่ยนมาเป็นรูปเคารพทางพุทธศาสนาเข้าแทนที่ ส่วนอื่นๆ ของ ปราสาทขอม เช่น มณฑป หรืออาคารด้านหน้าของปรางค์นั้น สามารถดัดแปลงมาเป็นพื้นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาได้

ถึงแม้ว่าจะไม่สอดคล้องกับความต้องการพื้นที่ใช้สอยได้โดยตรง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นทางออกที่ดีสำหรับช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

ปราสาทขอมที่ได้รับการดัดแปลงเพื่อประโยชน์ของพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งพบว่ามีจำนวนไม่มากนัก ได้มีการใช้สอยอาคารอย่างต่อเนื่องมาได้ระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะปล่อยทิ้งร้างไปในที่สุด และเป็นที่น่าสังเกตว่าปราสาทขอมที่ได้รับการดัดแปลงประโยชน์ใช้สอยดังกล่าวนี้ จะอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ในรูปโครงสร้าง ความทรุดโทรมจะถูกจำกัดเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น ส่วนปราสาทขอมที่สำคัญอื่นๆ ในบริเวณที่ราบสูงอีสานนั้น กลับไม่พบการใช้ประโยชน์ต่อเนื่อง แต่เป็นการหยุดใช้งานลงโดยฉับพลันในช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงศาสนาและการปกครอง จากพราหมณ์ฮินดูมาเป็นพุทธเถรวาทลังกาแทบทั้งสิ้น

ปราสาทขอมที่มิได้รับการดัดแปลงให้ใช้งานต่อเนื่องในบริเวณดังกล่าว จะถูกทิ้งร้างหรือทำลายลงด้วยสาเหตุต่างๆ ซึ่งสามารถแบ่งแยกโดยทั่วไปได้ดังนี้

1. อาคารถูกทิ้งร้างให้เสื่อมโทรมลงตามสภาพธรรมชาติ

2. อาคารถูกทำลายลงโดยแรงกระทำของธรรม ชาติ เช่น แผ่นดินไหว พายุ น้ำหลาก ฟ้าผ่า

3. อาคารถูกทำลายลงโดยอัคคีภัย

4. อาคารถูกทำลายลงโดยการเสื่อมสภาพของโครงสร้าง

5. อาคารถูกทำลายลงด้วยน้ำมือมนุษย์

ในการพิจารณาการเสื่อมสลายของ ปราสาทขอม ในดินแดนไทยนั้น จำต้องศึกษาโดยละเอียดในแต่ละอาคารถึงสภาพที่เป็นอยู่ในช่วงก่อนได้รับการบูรณะว่ามีสภาพเป็นอย่างไร จากนั้นจึงเปรียบเทียบหลักฐานจากรายละเอียดของชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมที่ขุดหรือค้นพบจากบริเวณโดยรอบอาคาร เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับชิ้นส่วนที่ยังคงสภาพอยู่กับตัวอาคาร เราจะพบความแตกต่างที่บ่งบอกถึงระยะเวลาของการถูกทำลายลงและทิ้งร้างได้ว่ายาวนานไปเพียงไร เนื่องจากชิ้นส่วนของลวดลายต่างๆ มักแกะสลักจากหินทราย ซึ่งเมื่อถูกฝังกลบในชั้นดินแล้วจะคงสภาพเดิมตลอดไป ซึ่งแตกต่างกับลวดลายเหล่านั้นที่ยังคงอยู่บนตัวอาคาร ย่อมสลายตัวลงตามสภาวะการกัดกร่อนของธรรมชาติ

องค์ประกอบอีก 2 ประการ ที่มีส่วนสัมพันธ์โดยตรงกับการเสื่อมสลายของตัวอาคาร ได้แก่ รูปแบบหรือเทคนิคการก่อสร้างและวัสดุที่นำมาใช้ว่ามีความคงทนต่อสภาพดินฟ้า หรือแรงกระทำอื่นๆ อย่างไร

1. อาคารถูกทิ้งร้างให้เสื่อมโทรมลงตามสภาพธรรมชาติ

สภาพดินฟ้าอากาศถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการกัดกร่อนผิววัสดุอาคารปราสาทขอม ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบด้วยวัสดุหลัก 4 ประเภท ได้แก่ อิฐเปลือย อิฐฉาบปูน ศิลาแลง และหินทราย ความชื้นและความร้อนถือเป็นตัวการที่สำคัญในการทำลายวัสดุเหล่านี้ให้เสื่อมสภาพ ทุกครั้งที่อาคารเปียกชุ่มด้วยน้ำฝน และถูกแผดเผาด้วยความร้อนระอุของแสงแดดในเวลาต่อมา ส่วนหนึ่งของอณูที่ยึดประกอบเป็นพื้นผิวของวัสดุจะแตกสลายลง ผิวอาคารประเภทก่ออิฐฉาบปูนจะเริ่มแตกร้าวและสลายตัวลงก่อนในชั่วอายุคน ส่วนผนังที่ก่ออิฐเผาเรียบจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าถึงหลายชั่วอายุคน

ปราสาทขอมที่ก่อสร้างด้วยวัสดุประเภทหินทรายขาว เช่น ปรางค์ประธานปราสาทพิมายนั้น จะมีอายุการใช้งานที่สูงมากนับพันปีขึ้นไปโดยไม่เสื่อมสลาย ถ้าสังเกตให้ดีจะพบลวดลายแกะสลักหินทรายบริเวณเรือนธาตุของปรางค์ประธาน ยังคงสภาพความสมบูรณ์สูงมาก แสดงถึงความคงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศของวัสดุที่สถา ปนิกหรือวิศวกรผู้สร้างสรรค์เลือกนำมาใช้เป็นอย่างดี

2. อาคารถูกทำลายลงโดยแรงกระทำของธรรมชาติ

นอกจากการถูกกัดกร่อนโดยสภาพดินฟ้าอากาศตามธรรมชาติแล้ว แรงกระทำโดยตรงจากธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำหลาก ฟ้าผ่า ลมพายุ หรือแม้ แต่การฝังรากลงในตัวอาคารของต้นไม้ใหญ่ ยังเป็นสาเหตุสำคัญในการพังทลายลงของอาคารโดยทั่วไป

สำหรับปราสาทขอมในไทย เราไม่พบการพังทลายโดยน้ำท่วมหรือน้ำหลาก อาจเป็นไปได้ว่าสถาปนิกจะเลือกชัยภูมิที่สูงจึงรอดพ้นสภาวะอันตรายนี้ได้ ส่วนกรณีลมพายุนั้นไม่มีผลต่ออาคารที่มีลักษณะการก่อสร้างมั่นคงด้วยอิฐและหินล้วนได้ สำหรับฟ้าผ่านั้นอาจก่อให้เกิดความร้อนต่อส่วนยอดสุดของปรางค์หรือกลศ มีตรีศูลเป็นโลหะ ทำหน้าที่เสมือนสายล่อฟ้า เป็นเหตุให้กลศอาจแตกสลายลงได้ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้อาคารพังทลายลงทั้งหลัง

สาเหตุที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อโครงสร้างอาคารปราสาทขอมได้ก็คือแผ่นดินไหว ในขณะที่ผิวโลกเคลื่อนที่ไปมาในแนวราบ ร่วมกับการเคลื่อนไหวในแนวดิ่งเป็นการออสซิเลต (oscil-late) ยังผลให้เกิดความเครียดอย่างมหาศาลในวัสดุที่รองรับมวลน้ำหนักของโครงสร้างทั้งหมดที่อยู่เหนือขึ้นไป ผลก็คือวัสดุประเภทอิฐและหินที่มีความยืดหยุ่นตัวได้น้อย จะแตกร้าวไม่สามารถรับน้ำหนักได้อีกต่อไป และส่วนของอาคารที่อยู่เหนือขึ้นไปจะพังทลายลงมากองกับพื้น โดยทั่วไปแล้วตำแหน่งของจุดเครียดของวัสดุจะอยู่ที่ระดับความสูง 2 ใน 5 ของอาคาร

จากการสำรวจโดยทั่วไปแล้ว ไม่พบข้อบ่งชี้การพังทลายของปราสาทขอมในที่ราบสูงอีสานว่าเกิดจากแผ่นดินไหว ด้วยเหตุว่าหากแผ่นดินไหวเป็นสาเหตุจริง เราจะพบรอยแตกแยกของวัสดุในตำแหน่งดังกล่าวปรากฏอย่างชัดเจน และไม่เพียงแต่ปรางค์ประธานเท่านั้นที่ถูกทำลายลง แต่ปรางค์ข้างเคียงรวมทั้งอาคารส่วนประกอบอื่นๆ และกำแพงแก้วจะพังทลายลงในลักษณะเดียวกันและพร้อมกันอีกด้วย

3. อาคารถูกทำลายลงโดยอัคคีภัย

ไฟไหม้จะเป็นด้วยอุบัติเหตุหรือจงใจก็ตาม สามารถทำลายอาคารทั้งหลังลงได้ แต่คงไม่ใช่ในกรณีปราสาทขอมในไทย ด้วยเหตุว่ามีชิ้นส่วนของโครง สร้างไม้ที่เป็นวัสดุติดไฟประกอบอยู่น้อยมากจะมีก็เพียงฝ้าเพดานขนาดเล็กในห้องโถงภายในของปรางค์หรือมณฑป และโครงสร้างหลังคาส่วนประกอบอื่นของปราสาท ที่มิใช่เป็นส่วนโครงสร้างหลัก ดังนั้นประเด็นอาคารพังทลายลงอันเนื่องมาจากอัคคีภัยจึงมิใช่ประเด็นของปราสาทขอมในไทย

4. อาคารถูกทำลายลงโดยการเสื่อมสภาพของโครงสร้าง

การเสื่อมสภาพของโครงสร้าง มักเป็นสาเหตุสำคัญของการพังทลายลงในอาคารต่างๆ ที่เห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสื่อมสภาพของฐานราก หรือฐานรากทรุดตัวนั่นเอง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนในอาคารยุคสมัยเกี่ยวกับปราสาทขอมในไทยคือ บุโรพุทโธ ของอินโดนีเซีย ที่พื้นฐานดาดฟ้าชั้นบนของอาคารทรุดตัวลงอันเนื่องมาจากฐานที่บดอัดไว้ทรุดตัว เป็นเหตุให้สิ่งก่อสร้างทั้งหมดในชั้นบนของอาคารพังทลายลงโดยสิ้นเชิง

แต่จากการตรวจสอบสภาพฐานรากอาคารปราสาทขอมในไทยโดยทั่วไป ส่วนใหญ่ไม่พบสาเหตุดังกล่าว วิศวกรปราสาทขอมคงตระหนักถึงปัญหาข้อนี้ และก่อฐานอาคารโดยเฉพาะปรางค์ประธานที่จะสูงใหญ่เป็นพิเศษให้มีความคงทนตลอดไปได้เป็นอย่างดี สาเหตุหลักอีกประการที่พบเห็นเกิดจากการใช้หินทรายแดงเป็นวัสดุโครงสร้าง เนื่องจากหินทรายแดงมีคุณสมบัติที่สามารถกะเทาะร่อนได้ง่าย ดังนั้นการผุกร่อนของวัสดุชนิดนี้ อาจทำให้อาคารทรุดตัวและพังทลายลงได้

5. อาคารถูกทำลายลงด้วยน้ำมือมนุษย์

เมื่อธรรมชาติมิใช่สาเหตุการพังทลายของปราสาทขอมในไทยแล้ว สาเหตุสุดท้ายซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุหลักเพียงประการเดียวคือฝีมือของมนุษย์นั่นเอง การรื้อทำลายอาคารประเภทศาสนสถานโดยทั่วไปของมนุษย์ มักเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งดังนี้

1. ขุดค้นหาสมบัติ

2. ลักขโมยส่วนประกอบสถาปัตยกรรมของอาคาร

3. ศึกสงคราม

4. ความขัดแย้งทางศาสนา

เนื่องจากอาคารปราสาทขอมในไทยมีความแตกต่างจากพุทธสถานในสมัยอยุธยาที่มักจะบรรจุสิ่งสักการะหรือซุกซ่อนของมีค่าไว้ในเจดีย์ ปราสาทขอมจะไม่นิยมซุกซ่อนของมีค่าไว้ นอกจากมงคลวัตถุเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ดังนั้นการขุดค้นหาสมบัติจึงมิใช่ประเด็นสาเหตุการพังทลาย

การลักลอบขโมยชิ้นส่วนสถาปัตยกรรม เช่น ทับหลัง หรือกลีบขนุน หรือส่วนประดับอื่นๆ นั้นมีพบเห็นทั่วไป เป็นเหตุให้อาคารมีลักษณะเว้าแหว่งเช่นที่ปรากฏ แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้อาคารทั้งหลังพังทลายลง

การศึกสงครามดูเป็นเรื่องร้ายแรงมากสำหรับอาคารพุทธสถานในสุโขทัย กำแพงเพชร หรืออยุธยา รวมทั้งเมืองต่างๆ ที่ไม่อาจรอดพ้นจากการทำลายล้างของศึกสงครามได้ แต่ดูเหมือนว่าศึกสงครามของกรุงสุโขทัยและของกรุงศรีอยุธยานั้น มิใช่สาเหตุที่เกิดกับปราสาทขอมในที่ราบสูงอีสาน เนื่องจากปราสาทขอมเหล่านั้นได้หมดความสำคัญลงก่อนหน้านั้นนานแล้ว และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปรื้อทำลาย อาจเป็นด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ที่ปรางค์ขอมทั้งสามที่สุโขทัย 1 แห่ง และลพบุรีอีก 2 แห่งนั้นสามารถรอดพ้นการทำลายมาได้ ในขณะที่อาคารพุทธสถานแทบทั้งหมดถูกทำลายลง

ความขัดแย้งทางศาสนาดูจะเป็นสาเหตุหลักที่ผลักดันคนกลุ่มหนึ่งที่นับถือศาสนาหนึ่ง เมื่อความขัดแย้งหรือโกรธแค้นต่อคนอีกกลุ่มหนึ่งที่นับถืออีกศาสนาหนึ่งเข้ามาถึงจุดแตกหัก ก็จะยกพวกพากันเข้าไปรื้อถอนทุบทำลายศาสนสถานของอีกฝ่ายหนึ่ง เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในทุกศาสนา ทุกมุมโลกมาช้านาน ตั้งแต่ก่อนพุทธกาลมาจนจบปัจจุบัน และเมื่อความขัดแย้งนี้ขยายตัวเป็นวงกว้างและทวีความรุนแรงขึ้น ก็กลายเป็นสงครามศาสนา ดังนั้นทฤษฎีของความขัดแย้งหรือการเปลี่ยนแปลงศาสนาจากพราหมณ์ฮินดูผสมผสานกับพุทธมหายาน มาเป็นพุทธเถรวาทลังกาที่เคร่งครัดในยุคปลดแอกอิทธิพลขอมนั้น ดูจะเป็นประเด็นหลักที่มีน้ำหนักมากและยากที่จะปฏิเสธได้

ข้อยืนยันจากหลักฐานโบราณวัตถุ ได้แก่ การพังทลายลงของปราสาทขอมในไทยนั้นเป็นอย่างมีระบบ นั่นคือปรางค์ประธาน ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์สูงสุดของศาสนาพราหมณ์หรือวัฒนธรรมขอมจะถูกรื้อทำลาย จากนั้นส่วนยอดของปรางค์บริวารและบางส่วนของโคปุระจะถูกทำลาย ที่เหลือคือส่วนประดับต่างๆ จะถูกทำลาย เช่น หลังคาระเบียงคด สะพานนาคราช และเสานางเรียง เป็นต้น

เป็นที่น่าสังเกตว่าการพังทลายของปราสาทขอมแทบทั้งหมดในเขตอีสานสูง เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ยกเว้นอาคารประเภทอโรคยศาล หรือธรรมศาลาต่างๆ ที่สร้างไว้ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ด้อยความสำคัญในแง่สัญลักษณ์ของศาสนา ยังคงสภาพโครงสร้างที่ชัดเจนและสมบูรณ์เป็นส่วนใหญ่มิได้ถูกรื้อทำลาย

ข้อสังเกตที่ชี้ชัดถึงการพังทลายของปราสาทขอมในไทยอีกประการหนึ่งว่าเป็นผลจากการกระทำของธรรมชาติหรือมนุษย์ อยู่ที่ลักษณะของเศษหรือชิ้นส่วนของโครงสร้างที่กองทับซ้อนอยู่กับที่ หรือกระจัด กระจายไปคนละทิศละทาง ในกรณีของการพังทลายโดยธรรมชาติ ไม่ว่าจะด้วยการเสื่อมสภาพของโครงสร้างหรือแรงกระทำอื่นๆ จากธรรมชาติ ชิ้นส่วนต่างๆ ของอาคารซึ่งประกอบด้วยหินก็ดี อิฐก็ดี จะแยกตัวออกจากกันเมื่อแรงยึดเหนี่ยวของวัสดุหมดไป วัสดุเหล่านั้นจะตกลงมากองที่พื้นโดยแรงโน้มถ่วงของโลก วัสดุจะแตกหักอันเป็นผลมาจากการอัดกระแทกของชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ตกตามกันลงมา การกระจัดกระจายจะอยู่ในวงจำกัด และค่อนข้างจะมีระเบียบในทิศทางของการพังทลาย

ในทางตรงกันข้าม หากการพังทลายนั้นเกิดจากการกระทำของมนุษย์แล้ว วิธีที่ง่ายและได้ผลที่สุดในยุคที่เครื่องจักรหรือระเบิดยังไม่ได้นำมาใช้ คือการใช้เชือกขนาดใหญ่คล้องส่วนต่างๆ ของยอดปรางค์ เช่น กลศ หรือกลีบขนุน และฉุดลากลงมาด้วยแรงมนุษย์หรือช้างงาน จากนั้นชิ้นส่วนที่เหลือจะเริ่มแยกตัวออกจากกันง่ายต่อการฉุดลากลงมา

ผลที่ปรากฏคือ เศษชิ้นส่วนจะกระจัดกระจายไร้ทิศทาง ไร้ระเบียบ ชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมของยอดปรางค์ที่ถูกชักรอกลงมาในลำดับต้นๆ นั้น อาจตกลงดินห่างจากอาคารพอสมควรและอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ในช่วงแรกของการบูรณะอาคารปราสาทหิน กรมศิลปากรได้ขุดค้นพบชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมจำนวนมากที่อยู่ในสภาพดีและสามารถนำมาตกแต่งเข้าที่เดิมได้ ซึ่งหากการพังทลายเกิดจากแรงกระทำของธรรมชาติแล้ว โอกาสที่ชิ้นส่วนเหล่านั้นจะอยู่รอดคงสภาพตามที่ปรากฏเห็นนั้นย่อมมีความเป็นไปได้น้อยมาก

ผลวิเคราะห์การเสื่อมสลายของ ปราสาทขอม ในไทย

การเสื่อมสภาพและพังทลายลงของปราสาทขอมในไทย แบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะที่ชัดเจนคือ เกิดจากการทิ้งร้างและเกิดจากการทำลายโดยมนุษย์ จากการสำรวจพบว่ามีปราสาทขอมจำนวนน้อยที่รอดพ้นจากการทำลายของมนุษย์ ส่วนที่เหลือนั้นเป็นฝีมือมนุษย์แทบทั้งสิ้น

1. ในส่วนแรกที่เกิดจากการทิ้งร้างให้ผุกร่อนลงตามธรรมชาติ ได้แก่ ปราสาทขอมทั้ง 2 องค์ ในจังหวัดลพบุรี คือพระปรางค์สามยอดซึ่งสร้างด้วยศิลาแลงฉาบด้วยปูนและหินทรายแกะลวดลายในส่วนประกอบสถาปัตยกรรม นักวิชาการเชื่อว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 จากนั้นก็ได้รับการปฏิสังขรณ์และสร้างต่อเติมในสมัยพระนารายณ์มหาราชยุคกรุงศรีอยุธยา ส่วนอาคารอีกหลังหนึ่งคือปราสาทปรางค์แขก สร้างด้วยอิฐเผาขัดเรียบวางซ้อนกัน ผิวนอกฉาบปูน เชื่อว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 15 และได้รับการบูรณะต่อเติมภายหลังในสมัยอยุธยา

เป็นที่น่าสังเกตว่า ปราสาทขอมทั้ง 2 องค์นี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่เป็นดินทับถมของผิวโลกมีความอ่อนตัวพอสมควร กับทั้งยังก่อสร้างด้วยวัสดุที่มีความคงทนไม่มากนัก คืออิฐและศิลาแลง ฉาบด้วยปูน แต่สภาพอาคารทั้งสองยังอยู่ในลักษณะสมบูรณ์ทางโครงสร้าง จากฐานถึงยอดอาคาร สภาพผิวของอาคาร ปราสาทปรางค์แขก ซึ่งมีอายุมากกว่าปรางค์สามยอด ไม่ต่ำกว่า 200 ปี จะอยู่ในสภาพที่สึกกร่อนมากกว่าตามธรรมชาติของวัสดุที่นำมาใช้ สิ่งที่น่าสนใจคือปราสาททั้งสองนี้ รอด พ้นจากการทำลายของมนุษย์ทั้งๆ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ของศึกสงครามตลอดระยะเวลา 400 ปีเต็ม ย่อมเป็นหลักฐานยืนยันได้ชัดเจนว่าอาคารปราสาทขอม ได้เลือกใช้เทคนิคและวัสดุการก่อสร้างที่สามารถยืนหยัดต้านภาวะการทำลายของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

อาคารปราสาทขอมอีก 2 องค์ที่รอดพ้นจากการทำลาย และคงสภาพโครงสร้างดั่งเดิมจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ ปรางค์ด้านทิศเหนือของวัดพระพายหลวง จังหวัดสุโขทัย และปรางค์ประธาน ปราสาทนารายณ์เจงเวง จังหวัดสกลนคร ซึ่งอาคารทั้งสองได้มีการใช้งานต่อเนื่องที่ยาวนาน สำหรับปราสาทนารายณ์เจงเวงเป็นศิลปะแบบบาปวน สร้างด้วยศิลาแลงเป็นฐาน จากเรือนธาตุขึ้นไปจนจบส่วนยอดเป็นหินทราย โครง สร้างหลักจากส่วนฐานอาคารจนถึงส่วนยอดยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ส่วนบนของมุมด้านหน้าพังทลายลง สำหรับปราสาทขอมด้านทิศเหนือของวัดพระพายหลวงนั้น ยังคงสภาพโครงสร้างที่ดี เชื่อว่ามีการใช้งานต่อเนื่องระยะหนึ่ง

ส่วนปรางค์ประธานองค์กลางนั้น ได้รับการดัดแปลงเป็นส่วนหนึ่งของอาคารใหม่ที่สร้างต่อเติมเชื่อมเข้าหาจากด้านตะวันออก และสร้างพระพุทธรูปอิงอยู่บนผนังนั้น อาคารทั้งหลังรวมทั้งปรางค์ประธานถูกทำลายลงจากการศึกสงคราม ซึ่งปัจจุบันยังคงเหลือซากอาคารให้เห็นเป็นหลักฐานชัดเจน ส่วนปรางค์ด้านทิศใต้ได้ถูกรื้อถอนทำลายลงก่อนหน้านั้นนานแล้ว ทั้ง 2 อาคารปราสาทขอมเป็นตัวอย่างที่ดีถึงความคงทนถาวรต่อสภาพดินฟ้าอากาศของการก่อสร้าง

2. ส่วนที่ 2 ของปราสาทขอมในไทย เป็นลักษณะของการเสื่อมสลายอันเนื่องมาจากการทำลายของมนุษย์ อาจเรียกได้ว่าอาคารปราสาทขอมแทบทุกอาคารในเขตอีสานสูง อันได้แก่ โคราช บุรีรัมย์ ศรีสะ เกษ สุรินทร์ พังทลายลงโดยฝีมือคน ยกเว้นอาคารประเภทธรรมศาลา หรืออโรคยศาล ซึ่งจำนวนหนึ่งยังคงสภาพโครงสร้างที่ดีและเสื่อมสลายลงตามสภาพธรรมชาติในส่วนที่เป็นรายละเอียดของผิวนอกอาคาร

การพังทลายของปราสาทพิมาย

อาคารปราสาทขอมที่เป็นตัวอย่างชัดเจนของการพังทลายโดยฝีมือมนุษย์ ได้แก่ ปราสาทพิมาย อาคารที่โดดเด่นที่สุดของสถาปัตยกรรมขอมในไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมานั่นเอง

ภาพถ่ายของสิ่งก่อสร้างก่อนการบูรณะโดยกรมศิลปากร จากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ซึ่งมีศาสตรา จารย์ หม่อมเจ้ายาใจ จิตรพงศ์ ผู้อำนวยการบูรณะ และนายแบว์นาร์ด ฟิลลิปป์ นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสร่วมอยู่ด้วย ในช่วงปี พ.ศ. 2507-12 เป็นหลักฐานที่ดี ภาพถ่ายได้แสดงถึงอาคารหลักที่สำคัญทั้งสาม ได้แก่ ปรางค์ประธาน ปรางค์หินแดง ปรางค์พรหมทัต ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าปรางค์ประธานนั้น ส่วนยอดจะขาดหายไป คงเหลือแต่เฉพาะชั้นล่างสุดของวิมานที่ยังปรากฏครบสมบูรณ์ทั้งนาคปักและบันแถลง รวมถึงรายละเอียดสถาปัตยกรรมอื่นๆ ส่วนปรางค์หินแดงนั้น โครงสร้าง พังทลายลงมาเป็นแนวตั้งส่วนหนึ่ง สำหรับปรางค์พรหมทัตยังสมบูรณ์ทางโครงสร้างหากรายละเอียดสถาปัตย กรรมนั้นไม่ปรากฏให้เห็น

ในลักษณะโครงสร้างของอาคารทั้งสาม เป็นการก่อด้วยหินสกัดผิวเรียบวางซ้อนกันจากฐานถึงส่วนยอดของโครงสร้างในลักษณะเดียวกันหมด ส่วนวัสดุที่นำมาใช้นั้นแตกต่างกันออกไป ปรางค์ประธานใช้หินทรายขาว ปรางค์พรหมทัตใช้ศิลาแลง ส่วนปรางค์หินแดงใช้หินทรายแดง

ในแง่วัสดุนั้นอาจกล่าวได้ว่ามีความคงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศและกาลเวลาที่แตกต่างกันออกไป หิน ทรายขาวจะมีความคงทนสูงสุดต่อดินฟ้าอากาศและอายุใช้งานยาวนานหลายพันปีไม่เสื่อมสภาพ ส่วนหินทรายแดงจะมีจุดอ่อนตรงที่สามารถแตกล่อนได้เมื่อกระทบความชื้นและแสงแดดสลับกันไป และศิลาแลงนั้น ถึงแม้จะมีความแกร่งน้อยกว่าหินทรายแดง แต่ก็ไม่แตกล่อนได้ง่าย

ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบภาพถ่ายดั่งเดิมก่อนการบูรณะกับคุณสมบัติของวัสดุที่นำมาใช้แล้ว ภาพของปรางค์หินแดงและปรางค์พรหมทัตดูจะสอดคล้องกันดี เนื่องจากการแตกตัวของหินทรายแดงจะทำให้บางส่วนของโครงสร้างอ่อนตัวไม่สามารถรับน้ำหนักตัวเองได้ และพังทลายลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกในแนวตั้ง ส่วนปรางค์พรหมทัตยังคงยืนหยัดต่อไปจากฐานถึงส่วนยอดอาคารอีกได้นานนับพันปี

ในส่วนของภาพถ่ายที่ไม่สอดคล้องกับความจริงของคุณสมบัติของวัตถุ และค้านกับกรรมวิธีการก่อสร้าง นั่นคือ ปรางค์ประธานที่สร้างด้วยหินทรายขาวซึ่งในความเป็นจริงแล้วปรางค์ประธานควรจะมีสภาพที่สมบูรณ์แบบดังภาพถ่ายปัจจุบันหลังการบูรณะ มิใช่ภาพที่เห็นก่อนการบูรณะ เนื่องจากความแข็งแกร่งทนทานอันเป็นคุณสมบัติเด่นของหินทรายขาว จากการพิจารณาภาพถ่ายก่อนการบูรณะ เราจะพบเส้นแนวฐานอาคารที่ตรงไม่ทรุดเอียง แสดงว่าไม่มีปัญหาของฐานรากทรุดตัว

ในบริเวณโครงสร้างหลักที่รับน้ำหนักจากส่วนยอดอาคารหรือเรือนธาตุนั้น ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ราวกับเพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน จากการสำรวจด้วยตาเปล่า ไม่พบรอยแตกอันเกิดจากแรงเค้นของแผ่นดินไหว แสดงให้เห็นว่าแรงกระทำของธรรมชาติมิใช่ปัญหา ดังนั้นคำตอบเดียวที่ยังคงเหลือก็คือฝีมือมนุษย์ ซึ่งหากไม่มีการกระทำของมนุษย์แล้วปรางค์ประธานจะอยู่ในสภาพโครงสร้างที่สมบูรณ์ ดังที่ปรากฏในปัจจุบัน

อาคารปราสาทพิมาย เป็นหนึ่งในจำนวน 37 อาคารสิ่งก่อสร้างแบบปราสาทขอมที่ขึ้นทะเบียนไว้กับทำเนียบโบราณสถานขอม ในเขตจังหวัดนครราชสีมา และเมื่อศึกษาดูจะพบว่าโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นการทำลายโดยฝีมือมนุษย์ ซึ่งในจำนวนนี้อาจมีแรงกระทำของธรรมชาติร่วมอยู่ด้วย เช่น ปรางค์บ้านสีดา ที่อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เราจะพบรอยร้าวเริ่มจากฐานขึ้นไปและแยกตัวเพิ่มขึ้นจนถึงส่วนบนของโครงสร้างที่ยังคงเหลืออยู่ อันเป็นหลักฐานของการทรุดตัวของฐานราก และเป็นสาเหตุหลักของการพังทลาย ปัญหาการทรุดตัวของฐานรากยังพบที่ปราสาทหินโนนกู่ และปราสาทหินเมืองเก่า อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา แต่โดยภาพรวมแล้วปัญหาการพังทลายยังคงมาจากมนุษย์เป็นสาเหตุหลัก

นอกจากปราสาทขอมที่จังหวัดนครราชสีมาจำนวน 37 แห่งแล้ว ยังมีที่บุรีรัมย์อีก 50 แห่ง ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้คือปราสาทพนมรุ้งที่รู้จักกันดี ส่วนที่สุรินทร์มีอยู่จำนวน 31 แห่ง จังหวัดชัยภูมิ 6 แห่ง จังหวัดร้อยเอ็ด 14 แห่ง จังหวัดศรีสะเกษ 11 แห่ง และจังหวัดอุบลราชธานีอีก 6 แห่ง รวมเป็นปราสาทขอมในอีสานสูงทั้งสิ้น 155 แห่ง ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับทำเนียบโบราณสถานขอมในไทย ของกรมศิลปากร และยังคงทิ้งหลักฐานของการพังทลายให้ศึกษาต่อไปในอนาคต

สรุปข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการเสื่อมสลายของ ปราสาทขอม ในไทย

เป็นที่น่าสังเกตว่าอาคารปราสาทขอมที่สำคัญทั้งสองในลพบุรีและปรางค์วัดพระพายหลวงในสุโขทัยนั้นยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์รอดพ้นจากการถูกทำลาย แต่ส่วนที่ได้รับการต่อเติมของปรางค์ทั้งสามในสมัยอยุธยาเพื่อพิธีกรรมทางพุทธศาสนากลับถูกทำลายลงโดยสิ้นเชิงจากศึกสงคราม

แต่ในทางกลับกันอาคารปราสาทขอมอีกจำนวนมากมายในบริเวณที่ราบสูงอีสานเกือบจะเรียกได้ว่าทั้งหมดของจำนวน 155 แห่งถูกทำลายลง ยกเว้น อโรคยศาลและธรรมศาลา จำนวนเพียง 3-4 แห่งที่รอดพ้นจากการถูกทำลาย และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในกลุ่มปราสาทตาเมือนทั้งสาม ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊จ และปราสาทตาเมือน ที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์นั้น ปรางค์ประธานของปราสาทตาเมือนธม อันเป็นศาสนสถานของพราหมณ์ฮินดูที่มีความสำคัญมาก และเป็นที่ประดิษฐานของสวยัมภูลึงค์ หรือองค์ศิวลึงค์จากแท่งหินธรรมชาติ

สำหรับปรางค์ประธานและอาคารสิ่งก่อสร้างโดยรอบซึ่งสร้างขึ้นจากหินทราย เป็นวัสดุหลักได้ถูกรื้อทำลายลง ในขณะที่ปราสาทตาเมือนโต๊จและปราสาทตาเมือนซึ่งเป็นอโรคยศาลและธรรมศาลาที่สร้างขึ้นในยุคสมัยเดียวกันและตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ด้วยศิลาแลงอันเป็นวัสดุที่ด้อยคุณภาพและมีความคงทนน้อยกว่าหินทรายมาก เรากลับพบปรางค์ประธานปราสาทตาเมือนโต๊จยังคงสภาพเดิม ส่วนปราสาทตาเมือนนั้น เราพบด้านหน้าของอาคารพังทลายลงบางส่วนในแนวตั้ง เผยให้เห็นลักษณะโครงสร้างอาคารอย่างชัดเจนจากภาพถ่ายระหว่างการบูรณะ

ข้อสรุปพอจะกล่าวได้ว่า อาคาร ปราสาทขอม ในบริเวณที่ราบสูงอีสานโดยรวมมิได้เสื่อมสลายลงตามธรรมชาติหรือถูกทำลายลงด้วยพลังธรรมชาติอันได้แก่ พายุ น้ำท่วม เพลิงไหม้ หรือแผ่นดินไหว ส่วนการเสื่อมสลายของโครงสร้าง หรือการทรุดตัวของฐานอาคารก็มิใช่สาเหตุหลัก ซึ่งผลของการศึกษานี้กลับชี้ให้เห็นว่า การพังทลายของปราสาทขอมในบริเวณที่ราบสูงอีสาน เป็นการกระทำของมนุษย์นั่นเอง และหลักฐานจากตัวอย่างที่พบเห็นนั้นชัดเจนมาก แทบจะกล่าวได้ว่าไม่มีปรางค์ประธานของปราสาทขอมองค์ใดบริเวณที่ราบสูงอีสานที่รอดพ้นจากการทำลาย

ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า อาคารสถาปัตยกรรมหลักของปราสาทขอมที่มีความสำคัญมากในบริเวณที่ราบสูง อีสาน อันได้แก่ ปราสาทพิมาย ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงเขาพระวิหาร ซึ่งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษนั้น ปรางค์ประธานซึ่งเปรียบเหมือนหัวใจของปราสาทขอมจะถูกทำลายมากที่สุด จากนั้นส่วนที่มีความสำคัญรองลงมา เช่น ปรางค์บริวาร โคปุระ กำแพงแก้ว หรือบรรณาลัยจะถูกทำลายบางส่วนตามลำดับเหมือนกันหมด

ส่วนอาคารปราสาทขอมอื่นๆ ที่ด้อยความสำคัญลงมา ถูกทำลายด้วยความรุนแรงที่ไม่ด้อยลง ผลคืออาคารส่วนใหญ่ถูกทำลายลงจนแทบไม่เหลือสภาพเดิมให้เห็น

หลักฐานของการทำลายล้างทั้งหมดคล้ายกับจะบอกคนรุ่นหลังถึงเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งที่มาเยือนดินแดนแห่งนี้ เป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดถอนรากถอนโคน โดยไม่อาจหวนกลับมาใหม่ของวัฒน ธรรมขอมในดินแดนไทย

คงเป็นเรื่องที่นักวิชาการทางประวัติศาสตร์ต้องขบคิดและขุดค้นหาหลักฐานเรื่องราวอีกมากว่าเกิดอะไรขึ้นในยุคหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนจากการนับถือพราหมณ์ฮินดู และพุทธมหายาน มาเป็นพุทธเถรวาทลังกา พร้อมกับการเปลี่ยนจากอารยธรรมขอมมาเป็นสยาม

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแบบรุนแรงและฉับพลันในบริเวณอีสานสูงนั้นมีความเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใดกับสงครามปลดแอกของพ่อขุนผาเมืองและพ่อขุนบางกลางหาวที่สุโขทัย และเหตุการณ์ที่มิอาจ มองข้ามไปได้คงเป็นเรื่องราวจากบันทึกจดหมายเหตุโจวต้ากวาน เลขาท่านทูตจีนผู้ไปเยือนกัมพูชาในปี พ.ศ. 1839 ที่กล่าวถึงกองทัพเสียมที่เข้าปิดล้อมพระนครหลวง มีการรบพุ่งกันจนหมู่บ้านกลายเป็นที่โล่ง และส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงศาสนาและการปกครองในกัมพูชา ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดสิ้นสุดของอิทธิพลอารย ธรรมขอมและพราหมณ์ฮินดู มาเป็นระบบกษัตริย์ ตามพุทธคติและการนับถือพุทธศาสนาในแบบฉบับของเถรวาทลังกาเป็นหลัก

ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้มีความสัมพันธ์กับเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่บริเวณอีสานสูงอย่างไร คำถามต่างๆ คงไม่สิ้นสุดลงจนกว่าจะได้คำตอบว่าอะไรเป็นเหตุแห่งแรงบันดาลใจให้มีการปฏิบัติการครั้งสำคัญนี้ และใครเป็นแกนนำของขบวนการที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คำถามอาจเลยเถิดไปถึงว่าแกนนำที่สำคัญเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับแกนนำที่ไปปลดแอกสุโขทัย และกองทัพเสียมที่ไปปิดล้อมพระนครหลวงกัมพูชาตามคำบอกเล่าของ โจวต้ากวานอย่างไร เนื่องจากช่วงเวลาของเหตุการณ์สำคัญทั้งสุโขทัยก็ดี ที่ราบสูงอีสานก็ดี และที่พระนครหลวงก็ดี ต่างมีความคาบเกี่ยวกันในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ตามมาจากการทำลายล้างอิทธิพลขอมในบริเวณที่ราบสูงอีสานได้ปิดฉากวัฒนธรรมขอมที่ฝังรากลึกไม่น้อยกว่า 400 ปีในดินแดนแห่งนี้ลงโดยสิ้นเชิง และเปิดศักราชใหม่ให้แก่วัฒนธรรมที่มีพระพุทธศาสนาแบบเถรวาทจากลังกาเป็นแบบฉบับและเจริญงอกงามมาจนปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม :

การเสื่อมสลายของปราสาทขอมในดินแดนไทย มาจากสาเหตุและปัจจัยใดบ้าง
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

กิติกรรมประกาศ : ขอขอบคุณ

ดร. โสมสุดา ลียะวณิช รองอธิบดีกรมศิลปากร

อาจารย์รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร

คุณไมเคิล ไรท (เมฆ มณีวาจา) ที่ปรึกษาศิลปวัฒนธรรม

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 28 มิถุนายน 2560

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : การเสื่อมสลายของปราสาทขอมในดินแดนไทย มาจากสาเหตุและปัจจัยใดบ้าง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.silpa-mag.com

News Related
  • สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน

    Courtesy of ByteDance https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334883.mp3?cb=1701136108.mp3 สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า ByteDance บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมอย่าง TikTok สั่งปลดพนักงานในแผนกเกมออกราว 1,000 คน พร้อมยกเลิกการพัฒนาเกมที่ยังไม่ได้เปิดตัวทั้งหมด และเตรียมขายเกมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้บริษัทอื่นด้วย แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ByteDance มองว่าธุรกิจเกมไม่ได้สำคัญมากนักและมีโอกาสที่จำกัดในการสร้างรายได้ บริษัทจึงเลือกที่จะทุ่มเทกับธุรกิจหลักมากกว่า เช่น TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่พ่วงมากับอีคอมเมิร์ซ ซึ่งกำลังประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งนี้ ByteDance เคยมีความทะเยอทะยานอย่างมากกับธุรกิจเกม และต้องการต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent Holdings บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากรายได้ โดย ByteDance ได้ลงทุนอย่างจริงจังในธุรกิจเกมมาตั้งแต่ปี 2016 และในระหว่างปี 2019 ถึงปี 2022 พวกเขาทุ่มเงินมากถึง 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 151,200 ล้านบาท เพื่อลงทุนในบริษัทเกมมากกว่า 19 แห่ง ความทะเยอทะยานของ ByteDance ค่อย ๆ ลดลงจากผลงานที่น่าผิดหวัง ...
    See Details: สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน
  • สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก

    สุภโชค สารชาติ เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขัน เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 ได้ประกาศโปรแกรมการแข่งขันในปีนี้ออกมาแล้ว สำหรับปีนี้จะใช้ชื่อเต็มว่า ไทยประกันชีวิต เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 พาวเวอร์ดบาย เมจิ ยาสึดะ หลังได้ ไทยประกันชีวิต เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักอีกทั้งยังได้เซ็นข้อตกลงกับบริษัท นิคอน คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ “บรอนซ์ พาร์ทเนอร์” ด้วย เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 จะมี 4 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วย 2 ทีมไทยลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่วนทีมจากเจลีก ประกอบด้วย ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ เซเรโซ ...
    See Details: สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก
  • ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4

    ภาพประกอบข่าว ครม. เคาะกฎกระทรวงขยายเวลาให้สถานบริการที่ตั้งในโรงแรมถูกกฎหมาย สถานบริการที่ตั้งใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย ได้ถึง 4.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 พ.ย. 2566 ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่….) พ.ศ… ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฯ จะกำหนดให้สถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังต่อไปนี้เปิดให้บริการได้ถึงเวลา 4.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้ ได้แก่ สถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม, สถานบริการที่ตั้งอยู่ในท้องที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาพประกอบข่าว สำหรับท้องที่อื่นที่ประสงค์จะให้สถานบริการเปิดทำการได้ถึง 4.00 ...
    See Details: ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4
  • อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา

    Elon_Musk_Plan_City_Cover https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334745.mp3?cb=1701136565.mp3 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน อิสราเอลได้ต้อนรับการมาเยือนของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ในระหว่างที่หยุดทำสงครามกับฮามาสเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงในหลักการสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ในฉนวนกาซา หลังจากมัสก์รับปากว่าจะให้การช่วยเหลือการเชื่อมต่อเน็ตในฉนวนกาซาผ่าน “องค์กรช่วยเหลือที่สากลยอมรับ” ในช่วงที่อิสราเอลเริ่มถล่มฉนวนกาซาอย่างหนักจนการสื่อสารถูกตัดขาดลง ช่วงบ่ายของวันจันทร์ ไอแซค เฮอร์ซอก (Isaac Herzog) ประธานาธิบดีของอิสราเอลมีกำหนดจะพูดคุยกับมัสก์ และพวกเขาจะเข้าร่วมพูดคุยกับญาติของตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาจับตัวไว้ เพื่อหาทางต่อสู้กับการต่อต้านชาวยิวที่เพิ่มขึ้นบนโลกออนไลน์ ในวันเดียวกัน เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีกำหนดหารือกับมัสก์เกี่ยวกับความปลอดภัยของเอไอ และจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์ หลังจากทั้งสองพึ่งพบกันล่าสุดในแคลิฟอร์เนียเมื่อ 18 กันยายน เกี่ยวกับการต่อต้านชาวยิวบนแพลตฟอร์ม X และหาจุดสมดุลของเสรีภาพในการแสดงออก ปลายเดือนตุลาคม ช่วงที่มัสก์เผยว่าจะมอบเน็ตสตาร์ลิงก์ให้ใช้งานในฉนวนกาซา ชโลโม คาร์ฮี (Shlomo Karhi) กสทช. ของอิสราเอลได้แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ากลุ่มฮามาสจะนำเน็ตไปใช้ในการก่อการร้าย แต่การพูดคุยล่าสุดเน็ตสตาร์ลิงก์จะถูกใช้ในอิสราเอลเฉพาะเมื่อได้รับอนุมัติจากกระทรวงคมนาคมของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงในฉนวนกาซาด้วย ...
    See Details: อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา
  • 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ

    ‘ไบท์แดนซ์’ จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก ‘เทนเซ็นต์’ ไม่สำเร็จ สำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างอิงแหล่งข่าวเผยว่า ไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ติ๊กต็อกวางแผนปลดพนักงานฝ่ายเกมมิงและยุบธุรกิจพัฒนาเกมที่เป็นหน้าเป็นหน้าของบริษัทอย่าง Nuverse ถือเป็นการถอนตัวออกจากอุตสาหกรรมเกมครั้งใหญ่ ยกชัยชนะให้กับคู่แข่งอย่างเทนเซ็นต์ทันที แหล่งข่าวระบุว่า ไบท์แดนซ์ เตรียมปลดพนักงานหลายร้อยคน รวมทั้งยุบหลายโครงการที่กำลังพัฒนาและฉุดศักยภาพยอดขายของธุรกิจที่มีอยู่ ตามที่รอยเตอร์เคยรายงานหน้านี้ บริษัทยังพิจารณาขายเซี่ยงไฮ้ มูนตัน เทคโนโลยี สตูดิโอพัฒนาวิดีโอเกมชั้นนำที่ซื้อมาด้วยมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ (1.4 แสนบาท) เมื่อปี 2564 ด้วย การสร้างเกม ถือเป็นธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ปีก่อน ไบท์แดนซ์เริ่มปิดสตูดิโอของตนเองและปลอดพนักงานฝ่ายพัฒนาหลายคน หลังเปลี่ยนไปโฟกัสธุรกิจหลักอย่างติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ๆ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเดือนนี้ก็ปลดพนักงานเกือบ 1 ใน 4 ของฝ่ายพิโค (Pico) ธุรกิจอุปกรณ์โลกเสมือน ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ภาคธุรกิจเกมในโทรศัพท์มือถือของจีน ประสบปัญหาฟื้นธุรกิจให้ถึงจุดสูงสุดเหมือนช่วงโควิด-19 ในขณะที่เศรษฐกิจโลกชอละตัว ไบท์แดนซ์จึงค่อย ๆ ลดความทะเยอทะยานในอุตสาหกรรมเกม เมื่อไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเทนเซ็นต์ได้ ในทางกลับกันผู้นำอุตสาหกรรมเกมอย่างเทนเซ็นต์ ยังคงรักษาการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน เพราะได้รับแรงหนุนจากเครดิตผู้นำอุตสาหกรรม ...
    See Details: 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ
  • TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น

    ภาพประกอบข่าว TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้เศรษฐกิจโลกปี 2567 จะโตแบบชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2566 ผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดในรอบหลายทศวรรษ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง แต่ไม่เลวร้ายถึงขั้น “เศรษฐกิจถดถอย”  แนะลงทุนพันธบัตรเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน 8-15% ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลขาดทุนของพอร์ตโดยรวม นายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) (Mr.Thammarat Kittisiripat, Head of Economic Unit, TISCO Economic Strategy Unit) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2567 จะชะลอตัวลง อันเป็นผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่จะส่งผลกดดันต่อกิจกรรมเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ทั้งกิจกรรมด้านบริการและภาคการผลิต นอกจากนี้ ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางต่างๆ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ ทำให้ TISCO ESU ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 2567 จะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารกลางจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวแต่ยังให้น้ำหนักไม่มาก ที่จะเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” โดยหากอ้างอิงจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มที่ “พัฒนาแล้ว” จะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ...
    See Details: TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น
  • “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน

    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  ผู้แทนการค้าไทย หารือผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย และตัวแทนบริษัทส่งออกผลไม้ไทย เพื่อร่วมมือผลักดันการส่งออกโคและผลไม้ไทยไปจีน ผู้แทนการค้ากล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การส่งออกเดือน ต.ค.2566 มีมูลค่า 23,578.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% เป็นบวกต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 13 เดือน นับจากเดือนก.ย.2565 ซึ่งการส่งออกที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 9.3% โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 12.3% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5.9% สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง อาหารสุนัขและแมว ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง สิ่งปรุงรสอาหาร ผักกระป๋องและผักแปรรูป ผู้แทนการค้ากล่าวว่า สินค้าเกษตรจึงเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของไทย จากการหารือกับสมาคมผู้ส่งออกฯ ที่ผ่านมาประเทศไทยติดปัญหาการส่งออกโคมีชีวิตไปยังประเทศจีน ซึ่งต้องให้ผ่านการรับรองจาก ...
    See Details: “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน
  • มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน
  • น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)
  • เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล
  • กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา
  • SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร
  • สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

OTHER NEWS

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด!

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด! รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ เดือดสุด !! เพราะเป็นรอบที่น้องๆ ทีมสีส้ม “ไข่มุก-ชาโอม-จอย” และทีมสีม่วง “ฟิว-ทศกัณฐ์-ปอนด์” ต้องมานั่งโต๊ะเป็นผู้ประกาศข่าวจริงๆ รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ ใน THE REAL NEXT GEN อมรินทร์เน็กซ์เจน Presented By est cola รายการเรียลลิตี้ ... Read more »

นายกฯ เผย ครม.เคาะขึ้นเงินเดือน ขรก.แล้ว รอฟังโฆษกแถลงได้เลย

ภาพประกอบข่าว นายกฯ เผย ครม.พิจารณาวาระขึ้นเงินเดือนแล้ว ให้โฆษก รบ.แถลง พร้อมเรียก รมต.เพื่อไทยถกต่อ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันนี้ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาวาระการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งมอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกฯเป็นผู้แถลง ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังนายกฯเป็นประธานการประชุม ครม.ชุดใหญ่แล้ว นายกฯได้เชิญรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ... Read more »

ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’!

ภาพประกอบข่าว ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’! จากรกรณีที่ เด่นนาโพธิ์ ส.ธัญญาลักษณ์ นักมวยไทย ขึ้นชกกับ ก้องนภา ศรีมงคล เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่เวทีมวยวัดบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยการชกครั้งนี้ เด่นนาโพธิ์ แพ้น็อกไปอย่างกังขาในยกที่ 3 ทั้งที่ เด่นนาโพธิ์ เป็นฝ่ายฟันศอก ก้องนภา ... Read more »

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ ก่อนแง้มข่าวดีกลางปีหน้า แม้ว่าก่อนหน้านี้ บริษัท PP Krit Entertainment ของศิลปินนักแสดงชื่อดัง พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ได้ออกหนังสือชี้แจงมาตรการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของศิลปิน หลังมีบุคคลบางกลุ่มพยายามละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่ดูเหมือนว่ายังคงมีหลายคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎดังกล่าว จนเป็นเหตุให้คนใกล้ชิดต้องออกมาพูดเตือนสติเรื่องนี้อีกครั้งผ่านทางโซเชียล ล่าสุดเจอ พีพี ในงาน centralwOrld Light Up Christmas Tree Celebration ที่ ลานสแควร์A หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ... Read more »

สมยศ เผยเซ็นสัญญา"อิชิอิ"คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน

สมยศ เผยเซ็นสัญญา”อิชิอิ”คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน จากกรณี “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ประกาศอย่างเป็นทางการแยกทาง มาโน่ โพลกิ้ง จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน หลังผลงานคัดบอลโลก 2 นัดแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่น อดีตกุนซือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ แทนทันที ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เผยว่าเรื่องการเลือกโค้ช เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน มาดามแป้ง ... Read more »

ปุ้ย TPN อัปเดต มิสยูนิเวิร์ส 2023 หลังรัฐบาลนิการากัว สั่งห้ามเข้าประเทศ

หลังจากจบการประกวด Miss Universe 2023 แต่งานนี้ก็ยังมีเรื่องให้ ปุ้ย ปิยาภรณ์ หรือที่แฟนนางงามรู้จักในชื่อ ปุ้ย TPN ต้องมาชี้แจงหลายประเด็นที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ Miss Universe คนล่าสุดเข้าประเทศไม่ได้ หรือประเด็นที่บริษัท TCG จะฟ้อง JKN ซึ่ง JKN เป็นบริษัทแม่ และ TPN เป็นบริษัทลูก จะโดนร่างแหไปด้วยหรือไม่ งานนี้เจ้าตัวก็ได้ตอบแบบเคลียร์ว่า “ข่าวที่ว่ามิสยูนิเวิร์สเขาเข้าประเทศไม่ได้น่ะเหรอ นี่ก็ได้คุยกับ ND ... Read more »

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งรถแจ๊ซเมาหนักเดินเซขึ้นรถตำรวจ หลังจากพยายามขับรถพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ แถมไม่สลดในมือยังถือกระป๋องเบียร์ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจ สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ เฉี่ยวชนกันจนเกิดพลิกคว่ำ บริเวณอุโมงค์ท่าพระ มุ่งหน้าจาก ถนน จรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าถนน รัชดาท่าพระ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงลาดขาลงทางลอดอุโมงข้ามแยกใต้แยกท่าพระ ทิศทางมุ่งหน้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าไปทางถนน รัชดาท่าพระ แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ ... Read more »
Top List in the World