กรมอุตุฯ จับตา 4 ปรากฎการณ์ กระทบสภาพอากาศประเทศไทย ถึงกลางปี 67
กรมอุตุฯ จับตา 4 ปรากฎการณ์ กระทบสภาพอากาศประเทศไทย ถึงกลางปี 67
จากสภาพอากาศแปรปรวนที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่ส่งผลให้หลายพื้นที่อากาศร้อนจัด ขณะที่บางพื้นที่มีพายุฝน พายุลูกเห็บถล่ม
ล่าสุดผู้สื่อข่าวพบข้อมูลว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศการติดตามและการคาดหมายปรากฏการณ์ ที่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศ เดือนเมษายน ถึง มิถุนายน 2567 รวม 4 ปรากฎการณ์ ประกอบด้วย ปรากฏการณ์เอนโซ El Nino Southern Oscillation (ENSO), ปรากฏการณ์ Indian Ocean Dipole (IOD), ปรากฏการณ์ Madden Julian Oscillation (MJO) และลมมรสุม (Monsoon)
ถ้าเข้าสู่สภาวะ “ลานีญา” จะเกิดอะไรขึ้น ส่งผลต่อไทยอย่างไร? เอลนีโญกําลังอ่อน-อุณหภูมิสูง คาดเกิดลานีญา มิ.ย.นี้ “ปรากฏการณ์เอนโซ” เมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลเปลี่ยน ผลพวงจาก เอลนีโญ-ลานีญา
1.ปรากฏการณ์เอนโซ El Nino Southern Oscillation (ENSO)
ปรากฎการณ์เอนโซอยู่ในสภาวะเอลนีโญ (Nino 3.4= 1.1) จากแบบจำลองการพยากรณ์ ENSOของศูนย์ต่างๆ ทั่วโลก การพยากรณ์ความน่าจะเป็นของสถานการณ์ ENSO และการพยากรณ์อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรที่มีค่าสูงกว่าค่าปกติ ประกอบกับเมื่อวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติและแบบจำลองแล้วคาดว่า ปรากฏการณ์เอนโซที่อยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังปานกลางนี้จะอ่อนลงและเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะเป็นกลางในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2567 จากนั้นมีความน่าจะเป็นร้อยละ 62 ที่จะเข้าสู่สภาวะลานีญาในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2567
2.ปรากฏการณ์ Indian Ocean Dipole (IOD)
ปรากฏการณ์ IOD หรือดัชนีวัดค่าความผิดปกติของอุณหภูมิผิวน้ำทะเล อันเนื่องมาจากการอุ่นขึ้นหรือเย็นตัวอย่างผิดปกติของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณตอนใต้ด้านตะวันออกของมหาสมุทรอินเดียบริเวณเขตศูนย์สูตร (EAST) กับอุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณด้านตะวันตกของมหาสมุทรอินเดียเขตศูนย์สูตร (WEST) โดยจากแบบจำลองการพยากรณ์ IOD index การพยากรณ์ความน่าจะเป็นของสถานการณ์ IOD และการพยากรณ์อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรอินเดีย พบว่า ช่วงเดือนมีนาคม แม้ว่าปรากฏการณ์ IOD จะมีดัชนีเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้าอยู่ที่ 0.86 ๐C ซึ่งอยู่ในช่วงของเกณฑ์บวก แต่สถานะในปัจจุบันของปรากฏการณ์ IOD ยังคงมีสถานะปกติ(Neutral)
จากแบบจำลองคาดการณ์ว่า IOD มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนเป็นสถานะบวกในช่วงเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2567 โดย IOD จะส่งผลให้ปริมาณฝนรวมบริเวณประเทศไทยลดลงเล็กน้อยในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน 2567
3. ปรากฏการณ์ Madden Julian Oscillation (MJO)
MJO เป็นปรากฏการณ์เกิดควบคู่กันระหว่างการไหลเวียนของบรรยากาศกับการยกตัวขนาดใหญ่ของอากาศในเขตร้อนมีช่วงการเกิดอยู่ในระหว่าง 30-60 วัน โดยจะมีการเคลื่อนตัวทางตะวันออก ซึ่งจะมีอิทธิพลหรือส่งผลกระทบกับการเกิดฝนที่ผิดปกติในขณะที่ปรากฏการณ์ MJO เคลื่อนผ่าน โดยเกือบตลอดเดือนมีนาคมปรากฏการณ์ MJO มีกำลังแรงขณะเคลื่อนตัวจากบริเวณมหาสมุทรอินเดีย ผ่าน Western Pacific จนถึง Western Hemisphere และแอฟริกา ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน
โดยผลการพยากรณ์ดัชนี MJO จากแบบจำลอง พบว่าในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคมปรากฏการณ์ MJO จะมีกำลังอ่อนลงขณะเคลื่อนจากบริเวณ Western Hemisphere ไปยังมหาสมุทรอินเดียและบริเวณ maritime continent ซึ่งภาพรวมของการพยากรณ์ คาดการณ์ว่าปรากฏการณ์ MJO จะส่งผลให้ประเทศไทยมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าปกติในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคมจนถึงสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน หลังจากนี้ยังคงต้องเฝ้าติดตามปรากฏการณ์ MJO อย่างใกล้ชิดต่อไป
4. ลมมรสุม (Monsoon)
ลมมรสุม คือลมที่พัดตามฤดูกาล (ลมประจำฤดู) เป็นลมแน่ทิศและสม่ำเสมอ โดยประเทศไทยอยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิดคือ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (Southwest Monsoon) และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ(Northeast Monsoon)
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย ระหว่างกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม มีแหล่งกำเนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกใต้บริเวณมหาสมุทรอินเดีย มรสุมนี้จะนำมวลอากาศชื้นจากมหาสมุทรอินเดียมาสู่ประเทศไทย ทำให้มีเมฆมากและฝนชุกทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามบริเวณชายฝั่งทะเล และเทือกเขาด้านรับลมจะมีฝนมากกว่าบริเวณอื่น
หลังจากหมดอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้แล้ว ประมาณกลางเดือนตุลาคมจะมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย จนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ มรสุมนี้มีแหล่งกำเนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงบนซีกโลกเหนือ ประเทศมองโกเลียและจีน
จากดัชนีลมมรสุมช่วงเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา พบว่า ค่าเฉลี่ยดัชนีมรสุมแสดงให้เห็น ลมตะวันออกเฉียงเหนือมีค่ามากกว่าค่าปกติและผลการคาดหมายลมที่ระดับ 850hPa (1,500 เมตร) ลมตะวันออกที่มีกำลังแรงกว่าค่าปกติพาดผ่านประเทศไทยตลอดทั้งประเทศ และมีลมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงกว่าค่าปกติพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ในขณะที่มีลมตะวันออกที่มีกำลังแรงกว่าค่าปกติพาดผ่านภาคใต้ และมีลมใต้พาดผ่านทางภาคเหนือและบางพื้นที่ของบริเวณภาคกลาง ส่วนบริเวณอื่นๆ มีลมตะวันออกที่มีกำลังแรงกว่าค่าปกติพาดผ่าน
ทั้งนี้ลักษณะดังกล่าวส่งผลให้เดือนเมษายน ประเทศไทยมีปริมาณฝนต่ำกว่าค่าปกติ เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของช่วงเดียวกัน ในช่วงปี 2534-2563